พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง  นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และมอบหมายให้นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โยกย้ายไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังจากมีปัญหาการทุจริตของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในเรื่องเงินช่วยเหลือคนพิการ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ปปท. สตง.และกระทรวง พม. พบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 171 คน จึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบความผิดทางวินัย  ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  เพื่อต้องการให้นายสมชัย ปลัดคลังไปช่วยดูแลการขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการปฏิรูป ซึ่งต้องเดินหน้าในหลายด้าน   ในขณะที่มีกระแสข่าวออกมาว่าปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่นั้น จะมีการเสนอรายชื่อ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป ช่วงหลังจากหมดวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยมีรายงานว่า มีรายชื่อของนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่   พล.ท.สรรเสริญ  กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีคณะกรรมการปฏิรูป เสนอใช้งบประมาณนับแสนล้านบาท เพราะต้องตั้งหน่วยงานเพิ่มอีก 30 กรม และหลายหน่วยงาน แต่เมื่อคณะกรรมการปฏิรูปหารือกับทุกหน่วยงานชัดเจนแล้ว อาจต้องยุบควบรวม หรือตั้งเพิ่มเติมบางหน่วยงาน ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณอีกทางหนึ่ง ทำให้อาจใช้งบประมาณไม่ถึงแสนล้านบาท เพราะเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไร ส่วนการขยายเวลาเกษียณอายุราชการจาก 60 ปี เพิ่มเป็น 63 ปี ตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปนั้น จะขยายเวลาการทำงานเพียงบางตำแหน่งที่ขาดแคลน ที่มีความสำคัญต้องให้ทำงานเพิ่มเติม ไม่ใช่ขยายเวลาราชการให้กับราชการทุกคน ทุกตำแหน่ง ตามที่มีการส่งตามสื่อออนไลน์.   ด้านพล.อ.อนัตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการปรับย้ายนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวง และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งให้นายพุฒิพัฒน์ ออกจากราชการไว้   ส่วนนายณรงค์ ได้ถูกออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะมีการพิจารณาแต่งตั้งรองปลัด พม.คนใหม่แทน ในการประชุม ครม. ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า เพื่อให้กระทรวงพม. จะได้พิจารณาคนภายในให้ละเอียดรอบคอบ ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ใช่การแก้อาถรรพ์กระทรวงที่ก่อนหน้านี้มีการทุจริตอยู่บ่อยครั้ง แต่ถือเป็นจังหวะของการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยยึดตามหลักการที่ผู้ตรวจการ หรือรองอธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรองปลัดแทน และดูความอาวุโส ผลงานและความดี ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา ทุกอย่างยึดตามความเหมาะสมเป็นธรรม