อนุมัติงบกว่า 900 ล้านบาท พัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางรถไฟฟ้า

by ThaiQuote, 17 เมษายน 2561

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติหลักการจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ลำลูกกา คลองสอง) จำนวน 820 หน่วย วงเงินลงทุนรวม 903.376 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินกู้ในประเทศ 814.564 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาและเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ และเงินรายได้ 88.812 ล้านบาท เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานในชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้ปานกลาง ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ในระดับราคาที่กลุ่มเป้าหมายรับภาระได้ พร้อมทั้งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัย และเสริมสร้างความเสมอภาคและโอกาสในการได้รับบริการโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐอย่างเท่าเทียม   โครงการดังกล่าวเป็นอาคารชุดพักอาศัย รวม 4 ชั้น ทาวเฮ้าส์ 3 ชั้น และบ้านแฝดเชิงอิสระ ใช้ระยะเวลาการดำเนินโครงการ ระหว่าง เดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนธันวาคม 2564.   นอกจากนี้นายณัฐพร ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการ ร่าง พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ.... หรือมาตรการเพื่อสนับสนุนการควบรวมธนาคารพาณิชย์ไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยการควบรวมธนาคารพาณิชย์ไทย จะช่วยให้สินทรัพย์หลังการควบรวมมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะทำให้ธนาคารมีศักยภาพในการแข่งขันกับธนาคารในภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 (ปี 2559 – 2563) ของธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการสนับสนุนการเชื่อมการลงทุนในภูมิภาค เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบการเงินไทยในการสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนและการเชื่อมโยงของประเทศในภูมิภาค   ทั้งนี้จะมี การยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ รวมถึงค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารพาณิชย์ที่ควบรวมกัน หรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กัน เพื่อช่วยธนาคารพาณิชย์ที่จะควบรวมกิจการด้วย โดยมาตรการนี้คาดว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีสรรพากรประมาณ 600 – 1,400 ล้านบาท แต่ถูกจะชดเชยมาด้วยการขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มเติมอีก อย่างน้อย 3,000-7,000 ล้านบาทและรายที่ได้ควบรวมกิจการระหว่างกัน.
Tag :