ชาเขียว – น้ำสี มีหนาว ! ชง ออกกฎห้าม “จัดชิงโชค”

by ThaiQuote, 9 พฤษภาคม 2561

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า กรมอนามัยในฐานะกรมวิชาการ จะทำข้อมูล ของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ที่มีแคมเปญส่งเสริมการตลาด โดยการชิงโชคของเครื่องดื่มเหล่านี้ ว่าส่งผลกระทบมากหรือไม่แค่ไหน เพื่อเสนอเป็นข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อพิจารณาออกประกาศห้ามการชิงโชคในเครื่องดื่มเหล่านี้  เหมือนกับที่กรมอนามัยเสนอกรมสรรพสามิตในการคุมภาษีน้ำตาลที่สำเร็จมาแล้ว  ดังนั้นอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะออกกฎหมายควบคุมเรื่องการชิงโชคเหมือนกับการห้ามชิงโชคของเครื่องดื่มชูกำลัง

ปัจจุบัน แม้ภาษีน้ำตาลจะมีการบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม แต่ผ่อนปรนให้เวลาดำเนินการปรับสูตรเป็นเวลา 2 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาทำเครื่องดื่มสูตรหวานน้อยกันมากขึ้น เพื่อไม่ต้องจ่ายภาษีมากขึ้น เพราะหากเครื่องดื่มยิ่งมีปริมาณน้ำตาลในอัตรากรัมต่อ 100 มิลลิลิตรมากขึ้นก็ยิ่งเสียภาษีสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้การบริโภคน้ำตาลของคนไทยน้อยลง แต่ปัญหาที่พบในขณะนี้คือ เครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลมหรือชาเขียวที่เดิมทีมีน้ำตาลสูงอยู่แล้ว แม้จะมีการทำสูตรน้ำตาลน้อยลง แต่กลับมีการทำการตลาด โดยเฉพาะการชิงโชคเพื่อให้คนหันมาบริโภคมากขึ้น

“ การทำการตลาดโดยการชิงโชค ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้คนหันมาบริโภคเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำรายได้มากขึ้น ประชาชนต้องรู้เท่าทันในเรื่องเหล่านี้  เนื่องจากการกินหวานมากๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งภาครัฐพยายามทำให้ประชาชนบริโภคน้ำตาลลดลง อย่างไรก็ตาม นอกจากการมีกฎหมายบังคับใช้ ประชาชนก็ต้องตระหนักในเรื่องเหล่านี้ด้วยว่าไม่ควรรับประทานหวานมากเกินไปจึงจะดีที่สุด” นพ.วชิระ กล่าว

สำหรับการส่งเสริมการตลาดด้วยการชิงโชคของเครื่องดื่มอย่างชาเขียวและน้ำอัดลมในปัจจุบัน  มีการดึงศิลปินดาราชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์  โดยรางวัลที่นำมาเสนอเพื่อชิงโชคมีทั้ง รถยนต์ ทองคำ โทรศัพท์มือถือ หรือ ทริปท่องเที่ยวร่วมกับศิลปินชื่อดัง 

การจัดเก็บภาษีน้ำตาล  มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2560 แต่ได้ผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการเป็นเวลา 2 ปี โดยจะเริ่มคิดอัตราภาษีตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2562 เป็นต้นไป

ทั้งนี้อัตราภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่ม จะมีการจัดเก็บตามค่าความหวาน แบ่งเป็น 6 ระดับ คือ

1.ค่าความหวาน 0-6 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่เสียภาษี

2.ค่าความหวาน 6-8 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 10 สตางค์ต่อลิตร

3.ค่าความหวาน 8-10 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 30 สตางค์ต่อลิตร

4.ค่าความหวาน 10-14 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 50 สตางค์ต่อลิตร

5.ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร

6.ค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ขึ้นไป เสียภาษี 1 บาท ต่อลิตร

เมื่อหลังพ้นเวลาผ่อนผันไปแล้วอีก 2 ปี หากค่าความหวานไม่ลดลง จะมีการปรับขึ้นภาษีแบบขั้นบันได

Tag :