เปิดตัวเลขเที่ยวเชียงใหม่เพิ่ม รายได้ 10,000 ล้าน

by ThaiQuote, 16 มิถุนายน 2561

เพราะป้ายผ้าที่เล่นไปเอาของเก่ามาเล่าใหม่แบบหน้าด้านๆ โพสต์กันแชร์กันไปแบบไม่ฟังไม่ดูข้อมูล กลายเป็นประเด็นที่ส่งผลลบต่อจังหวัดเชียงใหม่ จนสุดท้ายต้องออกมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ แต่ความเสียหายนั่นเล่า “แล้วใครจะรับผิดชอบกัน” เสียหายกันตรงที่เล่นกันแบบนี้ใช้มุกแบบนี้ มันก็ไม่ค่อยดี มันไม่ค่อยงาม เพราะข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ ถูกสะท้อนฉายกันออกมาแบบหมดเปลือก ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่แท้มาจากขบวนการเถื่อน หากกินกับนักท่องเที่ยว ที่เล่นเปิดคอนโด เปิดบ้านเช่า แบบนอกระบบ แล้วโกยๆ นักท่องเที่ยวเข้าไปพัก ทำเอาโรงแรม-รีสอร์ทที่เขาทำกันมาแบบถูกต้องตามระบบ เดือดร้อนกันไปตามๆ กัน แถมด้วยพนักงานทุกระดับก็ได้รับความเดือดร้อนตามๆ กันมาอีก เพราะถ้าขืนปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าที่พักเถื่อนแบบนี้ จะเอาทิปเอาค่าบริการมาจากไหน นี่แหละคือ “ปัญหาที่แท้จริงที่ไม่ใช่เรื่องของป้ายผ้าที่เป็นกระแสแหกตาในโซเชียล” ก่อนหน้านี้ ยืนยันได้ว่า เรื่องของท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่มีปัญหามาจากเรื่องนี้จริงๆ ด้วยเสียงจาก “พรชัย จิตรนวเสถียร” อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ที่ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “จริงๆ การท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไม่ได้ถึงกับเป็นไปตามที่เป็นกระแส แต่ก็ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะเกิดจากธุรกิจนอกระบบที่เข้ามามีส่วนกับเรื่องนี้มากกว่า “เวลานี้มีนายทุนรวมถึงนายทุนจากต่างประเทศ ใช้นอมินีที่เป็นคนไทย เปิดกิจการบ้านเช่า ห้องเช่า คอนโดเช่า แล้วเข้าในในธุรกิจท่องเที่ยวดึงเอานักท่องเที่ยไปพัก ซึ่งแน่นอนว่า สถานประกอบการเหล่านี้ไม่ได้รับมาตรฐาน และมีผลในด้านต่างๆ ทั้งด้านความสะดวกสบาย หรือแม้แต่ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อีกทั้งเรื่องของการกระจายรายได้ก็เป็นเรื่องที่ได้รับผลกระทบ เพราะธุรกิจแบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีพนักงานประจำก็จะจ้างแม่บ้าน จ้างยามแบบเอาท์ซอร์ส ในขณะที่ธุรกิจในระบบ จะเป็นการจ้างแบบพนักงาน เมื่อมีธุรกิจนอกระบบเหล่านี้แทรกเข้ามา ก็ทำให้ธุรกิจที่อยู่ในระบบได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพนักงานระดับล่างๆ ที่เคยมีรายได้จากตรงนี้ ก็จะต้องสูญเสียรายได้ไป รวมถึงเรื่องของภาพลักษณ์ หากเกิดปัญหากับนักท่องเที่ยว ซึ่งตรงนี้ ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีใครจะไปกำกับดูแลธุรกิจนอกระบบเหล่านี้ได้ ” พรชัย กล่าว นั่นแหละคือสาเหตุ!! แต่ขบวนการบิดเบือนทำให้กลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ จากกระแสป้ายผ้าที่กำลังเล่นกันสนุกคีย์บอร์ดในโซเชียล ยิ่งกลายเป็นเรื่องซ้ำเติมความเสียหายเข้าไปแบบรู้เท่าการณ์ กลายเป็นเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี เป็นเรื่องนักท่องเที่ยวหดตัว “พรชัย” กล่าวต่ออีกว่า “จริงๆ นักท่องเที่ยวตามจำนวนแล้วไม่ได้น้อยลงและเชียงใหม่ยังคงเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวจากหลายๆ ภูมิภาค แต่ที่จะมีผลกระทบบ้างก็คือนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ส่วนจีนก็ยังคงเป็นตลาดที่รับรู้และรู้จักเชียงใหม่เป็นอย่างดี ปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจนอกระบบ และผลกระทบที่เกิดจากนโยบายรัฐซึ่งมีการนำมาปฏิบัติกันแบบผิดฝาผิดรูป นี่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า” จากเสียงของผู้ประกอบการในพื้นที่ นำไปสู่เสียงของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสำรวจได้ว่า “เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวหาย” หรือ “เชียงใหม่เงียบจริงหรือไม่” เรื่องนี้ต้องถามจากคนในพื้นที่ “จรัญ พงษ์พุทธชานนท์ จากอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิก กองทุนหมู่บ้านฯ กล่าวว่า “เรื่องที่กล่าวกันถึงว่าจังหวัดเชียงใหม่การท่องเที่ยวเงียบเหงานั้นเป็นเรื่องที่พูดที่คิดกันไปเอง ไม่ใช่เรื่องจริง ในฐานะคนในพื้นที่ ยอมรับว่า ในบางจุด อาจจะมี แต่ในภาพรวมแล้ว นักท่องเที่ยวยังคงมากันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน “ช่วงนี้มันเป็นช่วงฤดูฝน เป็นโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว ซึ่งพอมีกระแสข่าวแบบนี้ก็ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดเสียหาย ซึ่งจริงๆ แล้วจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้น้อยลง ตามที่เป็นข่าวในกระแสโซเชียลแต่อย่างใด” ฟังเสียงยืนยันจากทั้งภาคการท่องเที่ยว และภาคชุมชน จากเชียงใหม่แล้ว ยังมีข้อมูลตัวเลขยืนยันแบบสดๆ ร้อนๆ กับสถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเดือนต้นปี 2561 รวมนักท่องเที่ยวทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศราว 886,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2560 ราว 8.24% จำนวนผู้เข้าพักประมาณ 760,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 5.67% และมีรายได้จากผู้มาเยือนเกือบ 10,000 ล้านบาท นี่เป็นข้อมูลตัวเลขคร่าวๆ ของเดือนมีนาคมปี 2561 หรือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยังมีตัวเลขเพิ่มขึ้นในแทบทุกด้านของการท่องเที่ยว (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยว) ซึ่งต้องลืมว่าเดือนนี้เดือนมิถุนายน ที่ยังไม่ได้คิดผลรวมในอีก 3 เดือนนี้เข้าไปด้วย เมื่อคิดแยกเป็นตัวเลขผู้มาเยี่ยมเยือนชาวต่างชาติที่มีอยู่กว่า 2.9 แสนคน สำหรับช่วงต้นปี 2561 ที่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (2560) ที่มีอยู่ 2.7 แสนคน ก็เป็นอีกตัวเลขที่ยืนยันได้ว่า นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่ไม่ได้ลดน้อยลงกว่าปีที่แล้วแต่อย่างใด และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นคำตอบที่ชัดเจน!! สำหรับการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่ยังคงเป็น “เมืองแห่งการท่องเที่ยวของไทย” และเป็น “ เมืองลำดับต้นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวสนใจมาเยือนเป็นที่รู้จักกันไประดับโลก” ฉะนั้นใครที่คิดว่าจะใช้ข้อมูลเท็จในการออกมาโจมตีกันทั้งในโลกโซเชียล และในเรื่องของข่าวสาร ก็ควรจะต้องมีสำนึกรับผิดชอบต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดด้วย เพราะการท่องเที่ยวคือแหล่งที่มาของรายได้ของประชาชนในจังหวัด เล่นมุกทำลายเครดิต เล่นแชร์ข้อมูลบิดเบือน จะเป็นการสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง ที่แม้สุดท้ายจะออกมาขอโทษ แต่ก็คงจะไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว กระตุ้นย้ำกันอีกทีว่าวันนี้ “การท่องเที่ยวเชียงใหม่” ยังคงคึกคัก และคึกคักกว่าเดิม แบบชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่มเอาของเก่ามาหลอกขายกินทำลายดิสเครดิตกันโดยไม่คือถึงความเสียหายที่จะตามมา ....
Tag :