ระวังกับดักนวัตกรรม 4.0

by ThaiQuote, 15 กรกฎาคม 2559

ภายใต้ความหอมหวานของนวัตกรรม 4.0 ที่จะมีอานุภาพผลักดันประเทศไทยให้เลื่อนขั้นสู่ความเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ได้ซ่อนภัยอันตรายฉกาจฉกรรจ์เอาไว้ไม่น้อย แถมยังเป็นเภทภัยที่มีแนวโน้มอุบัติขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ในท่วงทำนองที่อาจเทียบเคียงได้กับ “สึนามิ”

รูปธรรมที่สะท้อนสัญญาณอันตราย ซึ่งสามารถตรวจจับได้ชัดเจนแล้วตอนนี้คือปฏิกิริยาการลดจำนวนพนักงานลงของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ยี่ห้อโตโยต้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำ”หุ่นยนต์” ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากปัญญาประดิษฐ์ (Artificial  Intelligence-AI) เข้ามาแทนที่ ควบคู่ไปกับการปฏิวัติโครงสร้างแบบแผนการผลิตรถยนต์ที่จะติดตามมาอย่างกระชั้นชิด

ความเคลื่อนไหวของค่ายโตโยต้า ที่จะนำไปสู่การปฏิวัติโครงสร้างการผลิตรถยนต์ครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีแรงเหนี่ยวนำจากการที่ได้เข้าไปมีส่วนรับรู้อย่างลึกซึ้งของกระบวนการนวัตกรรมยานยนต์ของค่ายเทสล่า ในการสร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์จากพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงยิ่งที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเร็ววันนี้

สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ คือช่างยนต์  วิศวกรรมเครื่องยนต์ จะกลายสภาพเป็น”อาชีพตกยุค” และโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบบดั้งเดิมจะกลายสภาพเป็น”โรงงานร้าง” ขณะที่โรงกลั่นน้ำมัน ตลอดจนสถานีบริการน้ำมันก็จะต้องปฏิวัติตัวเองขนานใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงการแปรสภาพเป็น  ”เศษซากชำรุดทางเศรษฐกิจ”

ทำนองเดียวกันนักเรียนช่างยนต์...นิสิตนักศึกษาวิศวกรรมเครื่องยนต์ มีแนวโน้มที่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูงยิ่งในการต้อง”ว่างงาน” ด้วยเหตุที่รถยนต์รุ่นใหม่ จะเป็นรถยนต์ปราศจากเครื่องยนต์ แต่เป็นรถยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า

ความฉกาจฉกรรจ์ของมหันตภัยที่เป็นเงาเคียงคู่มากับนวัตกรรม 4.0 เป็นสิ่งที่กระบวนการประชารัฐ จะต้องเร่งแสวงหาหนทางในการรับมือ เพื่อลดผลกระทบอย่างเหมาะสมที่สุด และรวดเร็วที่สุด เพื่อพาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง โดยไม่ต้องติดกับดักนวัตกรรม 4.0 และไม่ทิ้งใครให้ต้องตกระกำลำบากไว้ข้างหลัง 

ที่มา : thaiquote