จิสด้าย้ำ จัดซื้อดาวเทียมธีออส-2 โปร่งใส

by ThaiQuote, 8 สิงหาคม 2561

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่าโครงการ THEOS-2  เป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อการจัดหาดาวเทียมถ่ายภาพเพื่อทดแทนดาวเทียมไทยโชตในปัจจุบันที่ครบอายุการใช้งาน และระบบภูมิสารสนเทศเพื่อการประยุกต์ใช้งานที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยเป็นโครงการที่รัฐบาลทุกชุดให้ความสำคัญ

ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.หรือ จิสด้า) กล่าวชี้แจงว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา หรือ THEOS-2 ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร สทอภ. เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 เป็นโครงการที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาทางด้านสังคมเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงในระยะยาว โดยการจัดหาดาวเทียมและนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือ Actionable Intelligence Policy หรือ AIP เพื่อการจัดทำและขับเคลื่อนนโยบายเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่และสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ

ทั้งนี้ AIP เป็นระบบที่ยังไม่เคยมีการใช้งานมาก่อนในประเทศไทย รวมถึงในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็มีระบุถึงการใช้ AIP เป็นเครื่องมือเพื่อการวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์และบริหารจัดการพื้นที่แบบครบวงจร

สำหรับการดำเนินงานโครงการ THEOS-2 สทอภ.ได้ให้ความสำคัญกับหลักสุจริตและความโปร่งใสในกระบวนการจัดหาตามหลักปฏิบัติสากลมาโดยตลอด

โดยโครงการ THEOS-2 มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่แตกต่างไปจากโครงการ THEOS-1 ที่ลงนามในสัญญาเมื่อปี 2547 ซึ่งเป็นการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษที่ซื้อตรงจากบริษัท Astrium แต่โครงการ THEOS-2 เป็นการจัดซื้อจัดจ้างแบบการประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Competitive Bidding: ICB)

สำหรับโครงการ THEOS-2 ได้เริ่มดำเนินการมาก่อนที่ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 จะบังคับใช้ ดังนั้นการกำหนดวิธีการและขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างจึงเป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหาร สทอภ. ตามนัยของมาตรา 128 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการบริหารก็ได้ให้ความเห็นชอบต่อ Instructions To Bidders (ITB) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้มีการประกาศและจัดประชุมเพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามแก่ผู้ซื้อซองทุกรายไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560

เนื่องจากโครงการ THEOS-2 เป็นโครงการพัฒนาที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในหลายด้าน และไม่ได้มีเป็นแบบสำเร็จรูปในท้องตลาด จึงต้องพัฒนาและบูรณาการเพื่อตอบโจทย์ที่มีความเฉพาะสำหรับประเทศไทย

ดังนั้น สทอภ.จึงได้ใช้แนวทางการจัดหาโดยวิธีประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Competitive Bidding : ICB) ซึ่งเปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนจากทุกประเทศที่มีศักยภาพสามารถเข้าแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ ITB ที่ สทอภ.ยกร่างขึ้นนั้น ตอบทั้งความต้องการของประเทศตามที่ สทอภ.ได้เคยรวบรวมจากหน่วยงานต่างๆ ในช่วงของการพัฒนาโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2554 และเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ให้สิทธิ สทอภ.ในฐานะเจ้าของโครงการฯ ในการใช้วิจารณญาณเลือก Successful Bidders ที่ให้ประโยชน์สูงสุดในองค์รวม ซึ่งผลการคัดเลือกปรากฏว่ามีผู้ผ่านการพิจารณาจำนวน 2 ราย จึงแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการล็อกสเปกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สทอภ.มีเจตนารมณ์ในการทำงานตามหลักความโปร่งใส จึงได้เลือกสมัครเข้าโครงการจัดทำข้อตกลงคุณธรรมของกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์ภายใต้ข้อตกลงคุณธรรมได้สอบถามและขอข้อมูลของโครงการฯ ในแง่มุมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง สทอภ.ไม่เคยเพิกเฉย และได้ทำการชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกประเด็น รวมทั้งให้ความร่วมมือทุกครั้งในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแก่คณะผู้สังเกตการณ์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ห้ามเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เนื่องจากอาจจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

นอกเหนือจากการดำเนินงานภายใต้ข้อตกลงคุณธรรมแล้ว ก็มีหน่วยงานของรัฐอีกหลายแห่งได้สอบถามและขอข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ THEOS-2 ซึ่ง สทอภ. ก็ได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทำนองเดียวกันกับที่ให้คณะผู้สังเกตการณ์ ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีการทักท้วงเพิ่มเติมหรือเสนอแนะให้ยุติการดำเนินโครงการแต่อย่างใด รวมทั้งได้มีการชี้แจงต่อสาธารณชนผ่านสื่อมวลชนด้วย

สำหรับกรณีที่มีผู้เสนอให้มีการเปิดเผยรายงานผลการสังเกตการณ์ (Notification Report) ของคณะผู้สังเกตการณ์นั้น รายงานดังกล่าวมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลทางด้านเทคนิคและอื่นๆ ที่เป็นความลับทางการค้าของผู้ยื่นซองประกวดราคา จำนวน 7 ราย ซึ่งตาม ITB กำหนดไว้โดยสรุปว่า สทอภ.ต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับ

ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง สทอภ. ได้ขอคำแนะนำจากการดำเนินการในส่วนต่างๆ และรับฟังความคิดเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุด ทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นตอนการลงนามในสัญญาที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ ก็เพื่อให้กระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ ของการประกวดราคา ตลอดจนถึงการบริหารสัญญามีความเป็นธรรม โปร่งใส และถูกต้องทั้งทางด้านเทคนิค ด้านราคา และการถ่ายทอดเทคโนโลยี