เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 61ความคืบหน้า กรณีคดีของ เสี่ยอ้วน หรือ นายปัญญา ยิ่งดัง กับ นายจิรศักดิ์ ผู้ต้องหาในคดีสังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ และนายอนันตชัย จริตรัมย์ ที่ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา   ทางด้านนางคิด ยิ่งดัง อายุ 59 ปี แม่เสี่ยอ้วน ชาวบ้าน ต.สำเภาลูน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ อยู่ในภาวะเครียดจัดกับเรื่องที่เสี่ยอ้วนลูกชายก่อขึ้น ประกอบกับป่วย โรคความดันสูง และเบาหวาน ซึ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาบ้านได้ไม่กี่วัน บอกกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตนเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และอยากให้ลูกชายมอบตัวตามกฎหมาย เท่านี้ครอบครัวก็ย่ำแย่พอแล้ว   ขณะที่น้องชายของเสี่ยอ้วน (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) บอกผู้สื่อข่าวว่า 4-5 ปี พี่ชายถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักที ส่วนรถยนต์ ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีขาว หมายเลขทะเบียน 944 ภูเก็ต เป็นรถของพี่ชายที่ซื้อไว้ให้ที่บ้านใช้มานานเกือบ 10 ปีแล้ว และตำรวจชลบุรีได้นำรถไปตรวจสอบ พร้อมกับตนเอง หลังจากนั้นตำรวจชลบุรีก็อนุญาตให้กลับมาบ้านได้ ส่วนรถยนต์ตำรวจแจ้งมาแล้วว่าจะนำมาส่งรถคืนให้ในวันพรุ่งนี้ 10 ส.ค.61 เพราะไม่เกี่ยวกับคดี ส่วนเสี่ยอ้วน พี่ชาย ตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เคยเห็น ไม่ได้กลับมาบ้านแต่อย่างใด.   มีรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่มีกระแสข่าวมาว่า ตำรวจตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเสี่ยอ้วนอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา และคาดว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น แหล่งข่าวรายงานว่า อาจเป็นการตบตา เจ้าหน้าที่ด้วยการขายหรือให้โทรศัพท์มือถือกับชาวกัมพูชาเข้าไปใช้ในฝั่งกัมพูชา เพื่อหลอกและตบตา เจ้าหน้าที่ ว่าตนเองได้ข้ามฝั่งไปกัมพูชาแล้ว และอาจยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทยก็เป็นได้ในขณะนี้