ไทยส่งออกมันอันดับ 1 โลก 7 ด. 5.7 หมื่นล้านบาท

by ThaiQuote, 14 กันยายน 2561

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยว่า การส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ในช่วง 7 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ค.) มีปริมาณ 5.10 ล้านตัน ลดลง 22.01% มูลค่า 1,805.76 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.66% หรือ 57,081.76 ล้านบาท เพราะไทยขายได้ราคาดีขึ้น โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ตุรกี และอื่นๆ ซึ่งไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก และมั่นใจว่ายังจะเป็นต่อไป เพราะกรมฯ มีแผนในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และยังมีแผนในการขยายตลาดมันสำปะหลังไปยังประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก ด้านการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน ล่าสุดกรมฯ ได้ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยได้ไปให้ความรู้เกษตรกรในการพัฒนามันเส้นสะอาด ยกระดับมาตรฐานการผลิตมันเส้นสะอาดให้มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกรก่อนเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ นายอดุลย์กล่าวว่า “กรมฯ ยังได้เชื่อมโยงตลาดให้ผู้ผลิต ได้แก่ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ผู้ประกอบการลานมัน และผู้ที่สนใจได้พบปะแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับซื้อผลผลิตว่าต้องการมันสำปะหลังคุณภาพแบบไหน ตลอดจนรับฟังนโยบายและสถานการณ์ตลาดมันสำปะหลังจากภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้ซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมเอทานอล เป็นต้น ว่ามีทิศทางอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเชื่อมโยงตลาดก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด” นายอดุลย์กล่าวอีกว่า ในด้านการผลักดันการส่งออก กรมฯ ได้เดินหน้าขยายตลาดส่งออกให้กับมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย โดยที่ผ่านมาได้เดินทางไปเปิดตลาดมันเส้นและมันอัดเม็ดของไทย เพื่อนำไปใช้ผลิตอาหารสัตว์ในตุรกี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คาดว่าจะมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น และยังได้เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่นิวซีแลนด์ โดยปัจจุบัน ยังมีการใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไม่มาก แต่หลังจากที่ไทยได้ไปแนะนำคุณภาพของมันสำปะหลัง ทำให้นิวซีแลนด์สนใจที่จะนำเข้ามันสำปะหลังจากไทย คาดว่าจะมีโอกาสในการส่งออกสูงถึง 5 แสนตันต่อปี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่รับซื้อมันเส้นสะอาดได้ยืนยันว่ายังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งสูง อัตราแปรสภาพดี เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องทุกอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งกรมฯ ขอให้เกษตรกรหันมาแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาดให้มากขึ้นเพื่อยกระดับรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป