ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมผู้บริหารหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อติดตามนโยบายทุกโครงการของกระทรวงฯ ว่า ขณะนี้หลายโครงการมีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือ และส่งเสริม SMEs ทั้งด้านการจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเปิดให้ดำเนินการแล้วบางส่วน และจะเปิดให้บริการได้ทุกศูนย์ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยศูนย์ที่เปิดให้บริการไปแล้วนั้น มีผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการแล้ว 15,760 ราย ยกระดับการขยายตัวของธุรกิจได้ 350 ราย สร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจได้ 5,000 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุนธุรกิจผู้ประกอบการได้ 1,500 ล้านบาท ด้านความช่วยเหลือมาตรการการเงินผ่านสินเชื่อกองทุนพัฒนา “เอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” วงเงิน 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะปิดรับคำขอสินเชื่อภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้มีวงเงินเหลืออยู่ประมาณ 200 ล้านบาท นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) หรือ ธพว. กล่าวเสริมว่า ในส่วนของกองทุนคนตัวเล็กวงเงิน 8,000 ล้านบาท อนุมัติแล้ว 4,000 ล้านบาท มีคำขอสินเชื่อกำลังพิจารณา 2,000 ล้านบาท คาดจะพิจารณาปล่อยกู้หมดภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีกับกองทุนพลิกฟื้นเอสเอ็มอี วงเงิน 1,800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนย้ายสินเชื่อ เพื่อให้ ธพว.ดำเนินการแทน คาดว่าจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 1-2 เดือน และพร้อมปล่อยกู้หมดภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน สำหรับการโอนย้ายกองทุนดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการปรับปรุงเงื่อนไงของสินเชื่อให้เกิดความคล่องตัวในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งจะวงเงินสินเชื่อปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มต้นที่ 50,000-200,000 บาท เพื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบรายเล็กเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผลกาดำเนินการของ ธพว.ในปัจจุบันสามารถให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ SMEs คนตัวเล็ก ผ่านโครงการต่างๆ ไปแล้ว 42,832 ราย คิดเป็นเงิน 1.16 แสนล้านบาท สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ 5.8 แสนล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงาน 4.2 แสนราย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ 2.05 แสนล้านบาท ขณะเดียวกัน ดร.อุตตม ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV นั้น ตนได้ขอให้เพิ่มเติมเรื่องของการยกระดับผู้สูงอายุในชุมชน เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการสร้างรายได้ห้กับชุมชนแบบครบวงจร เพื่อที่จะสร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ กนอ.พิจารณาจัดหาพื้นที่เพื่อการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ รวมทั้งการเร่งรัดสร้าง Big Data ภาคอุตสาหกรรม เพื่อรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ ในการกำหนดนโยบายตามแนวทางที่ถูกต้อง และใช้ข้อมูลเพื่อให้บริการผู้ประกอบการได้ตรงตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม นโยบายของปี 62 ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นการขยายผลและต่อยอดของการดำเนินการที่ได้ริเริ่มไปแล้วในปี 61  และอาจมีการเพิ่มเติมเรื่องของกองทุนช่วยเหลือที่จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งต่อไป   ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.thaiquote.org/content/34117 https://www.thaiquote.org/content/46103