แนวทางเริ่มชัดเจนมากขึ้น จากคำอธิบายของ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ที่ระบุถึงสาเหตุการร่างพ.ร.บ.โครงการประกันภัยพืชผล เพราะประเทศไทยไม่มีกฎหมายมากำกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ที่ผ่านมาการประกันภัยพืชผลการเกษตร จะใช้แนวทางการประกันภัยของต่างชาติมาปรับใช้

ร่างพ.ร.บ.โครงการประกันภัยพืชผล ในแนวคิดใหม่จะแตกต่างจากเดิมอย่างไร นายสุทธิพล บอกว่า จะมีการกำหนดรายละเอียดของการกำกับดูแล และเป้าหมายก็เพื่อผลักดันการประกันภัยพืชผลให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ที่จะมีรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นประธาน และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคณะอนุกรรมการรายจังหวัดมาดูแลโดยตรง มีการกำหนดรายละเอียดเนื้อหากฎหมายการประกันภัยให้เหมาะกับพื้นที่เกษตรกรรมในบ้านเรา

"มีความจำเป็นที่จะต้องทำกฎหมายออกมาให้ถาวร เพราะบ้านเราเป็นเมืองเกษตรกรรม เห็นได้จากที่ผ่านมามีการรับประกันภัยนาข้าวปีละกว่า 27 ล้านไร่ ครอบคลุมเกือบ 2 ล้านครัวเรือน โดยในปี 2562 คปภ.จะจัดจ้างหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยศึกษายกร่างกฎหมาย หลังจากที่ผ่านมาได้มีการเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติพิจารณาผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติแล้ว และโครงการประกันภัยพืชผลจะไม่ใช่เป็นการทำนโยบายแบบปีต่อปี แต่จะเป็นโครงการถาวร " 

นอกไปจากนี้ คปภ.ยังเตรียมจะพิจารณาปรับปรุงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกับพืชผลทางเกษตรกรรมใหม่ โดยจะใช้หลักวิทยาศาสตร์มาช่วยพิจารณาการจ่ายสินไหมเหมือนกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีสภาพอากาศ น้ำฝนที่มีผลกระทบกับพืชผลทางการเกษตร ซึ่งจะช่วยให้จ่ายค่าสินไหมได้ตรงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ต่างจากปัจจุบันที่ต้องรอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจตัดสินใจประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติก่อน บริษัทประกันภัยจึงจ่ายค่าสินไหม