แปลไทยเป็นไทยตามนัยยะข้างต้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าการดำรงอยู่ของสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ น่าจะสื่อสะท้อนให้ได้รู้ทั่วกันว่า”ความจริงใจ-ความไว้วางใจ”ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้านในพื้นที่ยังมีความเปราะบาง

ยิ่งไปกว่านั้นผู้นำชุมชน และชาวบ้านที่นั่นยังพูดถึง ”คณะพูดคุยสันติสุข” แบบประชดประชันว่ามีพฤติกรรมความเคลื่อนไหวแบบ”ข้ามหัวชาวบ้านในพื้นที่” โดยบินตรงจากกรุงเทพฯไปมาเลเซีย แล้วตั้งโต๊ะคุยกันในเรื่องของสันติสุขชายแดนใต้ ทั้งที่ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง  ไม่มีส่วนร่วม 

ผู้นำชาวบ้านที่สัมผัสรับรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ต่อเนื่องกันมานานหลายสิบปี ยอมรับว่าชาวบ้านยังคงมีความหวาดระแวงในเจ้าหน้าที่รัฐ แม้จะผ่อนคลายลงไปมากในปัจจุบันก็ตาม

ระดับความเข้มข้นของความหวาดระแวงที่ชาวบ้านมีกับเจ้าหน้าที่รัฐ จะแตกต่างกันออกไประหว่างทหาร-ตำรวจ-พลเรือน รวมไปถึงองค์กรอิสระ 

เนื้อหาสาระสำคัญของชุดข้อมูลต่างๆที่ชาวบ้านให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะมีความแตกต่างกันไปตามระดับความเข้มข้นของความหวาดระแวง 

ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ทำให้ปฏิกิริยาของหน่วยราชการ และองค์กรอิสระมีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เกิดความเหลื่อมล้ำผิดแผกแตกต่างกัน

ภายใต้สถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงอยู่ และภายใต้เงื่อนไขความหวาดระแวงระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ยังเป็นปัญหาคาใจกันอยู่ แต่พัฒนาการทางธุรกิจกลับกำลังก้าวรุดหน้าไปอย่างน่าอัศจรรย์

ข้อมูลจากผู้แทนหอการค้าในพื้นที่บ่งชี้ว่ารายได้จากการขายของห้างสะดวกซื้อบางแห่งที่เปิดสาขาที่นั่น เป็นสาขาที่ทำรายได้สูงที่สุดของห้างที่ว่า ขณะเดียวกันธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก็โตวันโตคืน ด้วยอัตราที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยสังเกตจากการเปิดสาขาของธุรกิจให้บริการรับ-ส่งสินค้าที่ผุดเป็นดอกเห็ดในพื้นที่

อย่างไรก็ตามสภาพ”ทวิลักษณ์”ที่มีลักษณะสวนทางกันระหว่าง “ความมั่นคง” กับ “เศรษฐกิจ” มีแนวโน้มจะโคจรมาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้กลไก”คณะรัฐมนตรีส่วนหน้า” หรือ”ครม.ส่วนหน้า”ซึ่งถือบริบทใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในพื้นที่ ท่ามกลางความชื่นชมและคาดหวังอย่างสูงอย่างเป็น”เอกฉันท์”จากผู้นำมวลชนในพื้นที่ 

สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งความหวังไว้กับ ครม.ส่วนหน้า คือบรรดารัฐมนตรีส่วนหน้าทั้งหลาย ต้องปฏิบัติหน้าที่”เต็มเวลา”อยู่ในพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่กำจัดทำลายสารพัดปัญหา..สารพันเงื่อนไขที่สุมไฟให้โชนแสงอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ด้วยความจริงจัง-จริงใจ โดยไม่ต้องเสียเวลารอคอย”สัญญาณ”จากรัฐบาลส่วนกลาง

ผู้นำชาวบ้านที่นั่นบอกว่าเงื่อนไขความสำเร็จของ ครม.ส่วนหน้า นอกจากความจริงจัง-จริงใจในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่าให้เหมือนรัฐบาลส่วนหน้าของบางรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่มีรัฐมนตรีส่วนหน้าไปเสนอหน้าแบบชั่วครั้งชั่วคราวแล้ว ยังจะต้องให้ความพิถีพิถันในการคัดสรรรัฐมนตรีส่วนหน้า โดยเฟ้นเอาเฉพาะ”คนที่ใช่”เท่านั้น....

สำหรับโผครม.ส่วนหน้าที่มีแพลม ๆออกมา 6-7 รายชื่อคือพล.อ.อุดมเดช  สีตะบุตร  พล.อ.กัมปนาท  รุดดิษฐ์  พล.อ.สุรเชษฐ์  ชัยวงศ์  พล.อ.อุดมชัย  ธรรมสาโรรัชต์  พล.อ.สกล  ชื่นตระกูล  พล.อ.ปราการ  ชลยุทธ  พล.อ.มณี  จันทร์ทิพย์  และนายภาณุ  อุทัยรัตน์ ในความรู้สึกนึกคิดของผู้นำชาวบ้าน ตลอดจนชาวบ้านแถวชายแดนใต้ให้ความชื่นชม ออกปากว่า”ใช่” แต่จะยิ่งใช่มากขึ้นไปอีกถ้าจะมีชื่อ”กิตติ กิตติโชควัฒนา” อดีตผู้ว่าฯยะลา เจ้าของฉายา”ผู้ว่าติดดิน”ที่มีเข้าใจพื้นที่ เข้าใจชาวบ้าน และเชี่ยวชาญช่ำชองภาษามลายู ร่วมอยู่ในโผ

ผิดไปจากนี้ท่านโต๊ะครู  โต๊ะอิหม่าม  คอเต็บ  บาบอ ขอสงวนสิทธิที่จะไม่แสดงความคิดเห็น

...........................................................................