รถตู้ - วันนี้ (22 ต.ค.) นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า กรณีรถตู้เช่าเหมาคัน 33-2779 กทม. เกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทางไฟลุกไหม้รถตู้ทั้งคัน ผู้โดยสารถูกไฟคลอกเสียชีวิต 9 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 6 ราย ขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคลองขลุง 4 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรนั้น ขณะนี้นายคมวัฏ แซ่พู คนขับรถยังอยู่ในอาการสาหัส ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจ กทม.เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ ส่วนมาตรการในการเข้มงวดเรื่องของความปลอดภัยจะดำเนินการตรวจจับความเร็วให้มีความถี่ขึ้นอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เพื่อเข้มงวดกวดขันความเร็ว และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ด้านความรับผิดนั้น ผู้ขับรถมีความผิดฐานบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 12 คน แต่บรรทุกผู้โดยสาร 14 คน โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และกรณีนี้เป็นการขับรถที่ก่อให้อุบัติเหตุร้ายแรงจนทำให้มีบาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 9 ราย จึงเห็นควรให้พักใช้ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภท และดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถต้องใช้อุปกรณ์และส่วนควบของรถ หรืออุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ เครื่อง GPS แต่ไม่ใช้ GPS เชื่อมต่อกับศูนย์ GPS จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการขนส่งไม่ควบคุม กำกับ ดูแลผู้ขับรถ ทำให้มีการบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด นอกจากลงโทษเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดแล้ว นายทะเบียนประจำจังหวัดที่พบการกระทำความผิด ก็จะพิจารณาสั่งระงับใช้รถด้วย และกรณีไม่เชื่อมต่อกับศูนย์ GPS ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ นอกจากนายคมวัฏจะปิดเชื่อมต่อกับศูนย์ GPS แล้ว ยังพบว่าขับขี่ด้วยความเร็วเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนายคมวัฏ แซ่พู เป็นทั้งผู้ประกอบการขนส่งและเป็นผู้ขับรถด้วยตนเอง และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจน ยังไม่สามารถสื่อสารพูดคุยได้ ดังนั้น หากนายคมวัฏทุเลาจากการบาดเจ็บสาหัสก็จะได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินการเปรียบเทียบปรับต่อไป ขอบคุณข้อมูล mgronline.com Police Thailand News   ข่าวที่เกี่ยวข้อง ศาลสั่งลงโทษ บ.ข.ส. จ่ายค่าสินไหม 20 ล้านบาท