นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI คาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2561 อัตราขนส่งบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะมากกว่า 80% เนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) แม้ว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนอาจจะลดลงไป แต่การบินไทยได้ผู้โดยสารยุโรปที่เป็นตลาดหลักกลับมา

ขณะที่ปัจจุบันผู้โดยสารจีนมีสัดส่วนประมาณ 10% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด จึงไม่ค่อยรับผลกระทบมากนัก โดยเมืองหลักที่การบินไทยทำการบินไปยังจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ และ กวางเจา ยังมียอดการเดินทางดีอยู่ทั้งนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว อีกทั้งการบินไทยได้ทำข้อตกลงกับไชน่า เซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ ซึ่งมีฝูงบินมากถึง 800 ลำ ในการร่วมมือทางธุรกิจกัน โดยขณะนี้ได้ร่วมมือขนส่งผู้โดยสารทั้งจีนและไทยด้วยกัน ซึ่งในจีนใช้กวางโจวเป็นศูนย์กลาง ส่วนไทยใช้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง

ทั้งนี้ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ดีต่อการบินไทย อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดันในเรื่องของการแข่งขันที่ยังคงสูง และรวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 นี้ การบินไทยจะเพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ซัปโปโร จาก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยพบว่าคนไทยนิยมไปซัปโปโรเพื่อเล่นสกีมากขึ้น ขณะที่ผู้โดยสารจากสิงคโปร์และมาเลเซีย นิยมเดินทางไปเล่นกอล์ฟ

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยจับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันโปรโมตเส้นทางบินไปเมืองรองในประเทศ 30 กว่าเมือง โดยการบินไทยมีมากกว่า 20 แพ็กเกจนำเสนอให้กับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนของการเพิ่มรายได้ให้กับการบินไทย รวมถึงฝ่ายการพาณิชย์ที่มีแผนเพิ่มรายได้จากช่องทางอื่น ได้แก่ ร้าน THAI Shop ที่นอกจากจะมีฐานลูกค้าเป็นคนไทย ยังมีญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งล่าสุดการบินไทยจะเปิดร้าน THAI Shop ที่ไอคอนสยาม รวมทั้งเปิดให้สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นได้ด้วย

“การบินไทย” เตือนระวังมิจฉาชีพหลอกขายทัวร์ราคาถูกเกินจริง

ดราม่า “การบินไทย” ต้องรีบแก้