นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ถึงการยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ว่า ที่ประชุมสรุปเรื่องดังกล่าวเป็น 3 ประเด็น คือ

1.เนื่องจากนักท่องเที่ยวร้อยละ 90 ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าวเป็นคนไทย จึงต้องการเติมนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (จีเอ็มเอส) เข้าไปยัง 4 จังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการเปิดด่านชายแดนเพิ่มเติมแล้ว และหลังจากนี้จะผลักดันให้วิธีการเข้าด่านเป็นไปด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น

2.นักท่องเที่ยวประมาณร้อยละ 60 ที่เข้ามาในท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จะกระจุกตัวอยู่ที่ จ.เชียงราย ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่เควรทำให้เชียงรายเป็นเมืองจ่ายนักท่องเที่ยวไปยัง จ.ใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้เชียงรายกำลังกลายเป็น จ.ที่มีรายได้สูงสุดในบรรดาเมืองรองทั่วประเทศ และจะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

3.เนื่องจาก จ.เชียงราย มีกลุ่มชาติพันธุ์ถึง 11 กลุ่ม ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างสีสันด้านการท่องเที่ยวที่มากกว่าแค่ด้านศิลปวัฒนธรรม แต่ยังสามารถก้าวไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามได้อีกด้วย

รมว.ท่องเที่ยวฯ ยังระบุถึงแผนการพัฒนาพื้นที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกครบวงจร ที่ประชุม ครม.พิจารณาแผนพัฒนาพื้นที่ถ้ำหลวง โดยใช้วัสดุท้องถิ่นผสานแนวคิดแบบสากล ซึ่งจะพัฒนาทั้งด้านการจัดการจราจร ความปลอดภัย การเพิ่มทางจักรยาน เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บิ๊กตู่”ถกวาระครม.สัญจรภาคเหนือ หวังกระตุ้นค้าชายแดน

1 พ.ย.เปิด “ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” รับนักท่องเที่ยว

“หมูป่าติดถ้ำ” พาท่องเที่ยวเชียงรายบูม