นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงพยาบาลพระราม 2 หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าปฏิเสธการรักษา น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน ซึ่งถูกสามีสาดน้ำกรดจนทำให้เสียชีวิต โดยตรวจสอบว่าสถานพยาบาลแห่งนี้ดำเนินการตามเงื่อนไขสถานพยาบาลหรือไม่ หากไม่ได้ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถก็ผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท "ต้องตรวจทางมาตรฐานว่าสถานพยาบาลทำไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ โดยต้องแบ่งเป็น 2 ขั้น คือเรื่องทางปกครองเพิกถอนใบอนุญาต และทางแพ่งต้องดูว่ามีความเสียหายอย่างไร" นพ.ประภาส กล่าว ด้าน พญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ผู้ป่วยซึ่งเสียชีวิตมาถึงโรงพยาบาลเวลาประมาณตี 5 เศษ ถึง 6 โมงเช้า วันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเข้ามาในโรงพยาบาลในลักษณะเดินกึ่งวิ่งจากด้านล่างขึ้นไปที่ห้องฉุกเฉินชั้น 2 แต่วิ่งผ่านห้องฉุกเฉินไปบริเวณห้องผู้ป่วยนอก และลงไปที่ชั้นใต้ดิน พนักงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งอยู่บริเวณชั้นใต้ดินจึงสอบถามและพาคนไข้เข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน พยาบาลห้องฉุกเฉินช่วยปฐมพยาบาลพร้อมสอบถามอาการ ทราบว่าคนไข้ถูกสามีสาดน้ำร้อนเข้าในหน้าในขณะนอน พยาบาลจึงปฐมพยาบาล พร้อมวัดสัญญาณชีพ ผลความดันปกติ ชีพจรปกติ การหายใจปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ จากนั้นได้โทรศัพท์รายงานแพทย์ที่ปรึกษาทางศัลยกรรม นพ.พีระ คณานุวัฒน์ โดย นพ.พีระ สั่งให้ทำแผลและรับไว้เป็นผู้ป่วยในเพื่อให้ยาระงับปวดและสังเกตอาการ แต่คนไข้ปฏิเสธการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ต้องการที่จะไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลบางมด และประสงค์ขอเดินทางไปเอง นพ.พีระ กล่าวว่า ได้ส่งข้อมูลกล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผู้ป่วยรายนี้มาถึงโรงพยาบาล รวมทั้งสำเนาเวชระเบียน สำเนาตารางเวรของผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ สบส.ที่มาตรวจสอบ สำหรับคลิปวิดีโอเปิดเผยไม่ได้ ยกเว้นญาติมาเซ็นรับไป หรือทายาทโดยธรรมมีสิทธิขอข้อมูลตามกฎหมาย ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบทั้งโรงพยาบาลพระราม 2 และโรงพยาบาลบางมด คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าผู้บริหารโรงพยาบาล แพทย์ และพยาบาล ไม่ได้ประเมินอาการคนไข้ก่อน แต่กลับดูสิทธิประกันสังคม ทั้งที่ตามกฎหมายโรงพยาบาลสามารถที่จะรับตัวไว้รักษากรณีฉุกเฉินได้ การให้พยาบาลวินิจฉัยโรคนั้นเป็นสิ่งที่ ไม่สามารถยอมรับได้ นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อว่าเบื้องต้น ยืนยันว่าข้อมูลที่โรงพยาบาลชี้แจงไม่ตรงกับที่ทางญาติเปิดเผย ซึ่งทางตนเองจะฟ้องร้องทางโรงพยาบาลเพื่อเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท และหากเป็นไปได้ ตนเองยืนยันว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ควรถูกปิดไม่ควรที่จะเปิดให้บริการต่อไป ขณะที่ทางมารดาของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ในวันนี้ตนอยากมาร้องเรียนให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการกับโรงพยาบาลพระราม 2 ที่ปฏิเสธการรักษานางสาวช่อลัดดา เพราะมองว่าโรงพยาบาลไม่มีจรรยาบรรณ ส่วนในด้านคดีนั้น หากทางตัวผู้ก่อเหตุมาขอขมาตนเอง ส่วนตัวยืนยันว่า ตนเองจะไม่มีวันให้อภัยเพราะมองว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย.   ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุมตัวมือสาดน้ำกรดทำแผน ญาติตะโกนด่า “ฆ่าหลานทำไม”

รพ.พระราม 2 แจงคนไข้สาดน้ำกรดต้องการไป รพ.ประกันสังคม

“คำตัน”สามีสาดน้ำกรดเมีย รับสารภาพ”อัจฉริยะ”นำญาติร้องสธ.