น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเดินทางเยือนสิงคโปร์ เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงาน "Healthy Rice Campaign 2018 ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา ว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมกับร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยที่มีคุณภาพสูงและดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ข้าวอินทรีย์ และข้าว กข43 ซึ่งเป็นกลุ่มข้าวชั้นดีที่รัฐบาลไทยพยายามผลักดันและส่งเสริมขยายตลาดส่งออกให้ได้เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากข้าวหอมมะลิไทยที่เป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยได้เชิญผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายข้าว ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ผู้ให้บริการ Food Service ต่างๆสื่อมวลชน Blogger และ Influencer ในวงการอาหารและท่องเที่ยวมาร่วมงาน เพื่อแนะนำข้าวคุณภาพดีของไทยให้เป็นที่รู้จัก และกระตุ้นให้มีการบริโภคข้าวในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น “ในการจัดงาน ได้จัดให้เชฟผู้เชี่ยวชาญชาวไทยนำข้าวดังกล่าวมารังสรรค์เป็นเมนูหลากหลายชนิด ทั้งอาหารคาวและหวานให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองชิม เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยำสมุนไพร ปลาหมึกยัดไส้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ทอด แกงเขียวหวานเนื้อ ไก่ พะแนงหมูเสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องหอมมะลิและข้าว กข43 และข้าวเหนียวลืมผัวเสิร์ฟคู่กับมะม่วงและไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมมะพร้าว เป็นต้น ซึ่งทุกเมนูได้รับการตอบรับจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างดี คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการสั่งซื้อ เพื่อนำไปทดลองทำตลาดตามมา" น.ส.ชุติมา กล่าว ทั้งนี้ ได้ใช้โอกาสนี้ทำการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้าวหอมมะลิไทยและเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งมาตรฐานข้าวไทย ตลอดจนการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยทั้งประเภทอาหารและไม่ใช่อาหารให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จักข้าวไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย สำหรับการจัดกิจกรรม Healthy Rice Campaign ที่สิงคโปร์ ถือเป็นประเทศที่ 4 ที่กระทรวงพาณิชย์เลือกเป็นตลาดเป้าหมายในการจัดกิจกรรม ต่อจากแคนาดา สหรัฐฯ และออสเตรเลีย โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมงาน เนื่องจากข้าวเพื่อสุขภาพของไทยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ ในขณะนี้ที่กระแสการกินเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง ชาวสิงคโปร์จึงให้ความสนใจดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้ประชาชนกินข้าวกล้อง เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันและดูแลปัญหาโรคต่างๆ ของประชาชนโดยเฉพาะโรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันพบว่าสิงคโปร์มีประชาชนที่เป็นโรคเบาหวานในสัดส่วนสูงประมาณร้อยละ 8 ของประชากรในประเทศและมีอัตราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมั่นใจว่าข้าวเพื่อสุขภาพของไทยดังกล่าวจะเป็นที่ต้องการและสามารถขยายโอกาสทางการตลาด เข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ได้ต่อไป ทางด้านสถิติการส่งออกข้าวไทยไปสิงคโปร์มีปริมาณเฉลี่ยปีละ 127,000 ตัน และในช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกข้าวไปสิงคโปร์ปริมาณ 77,385 ตัน มูลค่า 2,424 ล้านบาท ปริมาณส่งออกลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีปริมาณส่งออก 96,145 ตัน หรือลดลงร้อยละ 19.51 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 2,306 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.14 โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ร้อยละ 55.38 ข้าวหอมไทย ร้อยละ 24.85 และข้าวขาว ร้อยละ 11.72 ข่าวที่เกี่ยวข้อง “พาณิชย์” นำทัพลุย “อาลีบาบา” เปิดตัวข้าวไทยเพื่อสุขภาพ