น้ำผึ้ง ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
by ThaiQuote, 23 ธันวาคม 2561
- ขับร้อน
- บำรุงส่วนกลาง (กระเพาะอาหารและม้าม)
- ขับพิษ รักษาแผล
- ทำให้ชุ่มชื่นลดความแห้งแก้ไอ
- แก้ปวด
- บำรุงภาวะพร่องอ่อนแอ ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรัง แผลกระเพาะอาหาร วัณโรคปอด ฯลฯ
- ลดความแห้งของปอด ทำให้ชุ่มชื่น เหมาะสำหรับอาการไอแห้งๆ ไม่มีเสมหะ ไอเรื้องรัง มักจะทำให้ชุ่มคอ อาจใช้ร่วมกับสมุนไพร ซาเซิน เซิงตี้
- ช่วยระบายทำให้อุจจาระนิ่ม เหมาะสำหรับคนสูงอายุ หญิงหลังคลอด ผู้ป่วยฟื้นจากโรคที่มีอาการท้องผูก
- มีฤทธิ์สมานแผล เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคแผลกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กอักเสบ ผู้ป่วยที่ระบบการย่อยอ่อนแอ ปวดท้องและมีแขนขาเย็น ลดการหดเกร็งเนื่องจากความเย็น
- ขับพิษ - ทำลายพิษ สามารถลดพิษของ ยาสมุนไพรจีน ฟู่จื่อ อูโถว ใช้ทาแผลภายนอกที่เกดไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ฝีมีหนอง สามารถฆ่าเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- ใช้ในด้านความงาม ทำให้ผิวหนังนุ่ม และลดการอักเสบ
- ช่วยทำให้การนอนหลับดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็กเล็ก
- มีการประยุกต์ใช้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยเบาหวานห้ามกิน เนื่องจากน้ำผึ้งมีปริมาณกลูโคส และฟรักโทสที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างรวเเร็ว การหลั่งอินซูลินของตับอ่อนไม่พอ
- ห้ามกินปริมาณมาก โดยเฉลี่ยวันละ 1-2 ช้อน ประมาณ 20 กรัม ในกรณีพิเศษอาจกินเพิ่มได้ แต่ไม่ควรเกิน 50 กรัม/วัน
- คนที่ถ่ายเหลวหรือท้องเสีย เพราะจะทำให้ถ่ายมากขึ้น เนื่องจากน้ำผึ้งจะดูดน้ำทำให้ขับอุจจาระมากขึ้น
- ผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียน หรือมีผิวหนังอักเสบเรื้อรัง เนื่องจากภาวะความชื้นตกค้าง
- การผสมน้ำอุ่นประมาณไม่เกิน 40 องศา ไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนจัดๆ เพราะจะทำลายคุณค่าของเอนไซม์ วิตามิน และกรดอะมิโน และสารที่มีคุณค่า ในฤดูร้อนสามารถใช้น้ำเย็นชงดื่ม แต่ควรจะผสมน้ำขิงเล็กน้อย ป้องกันกระเพาะอาหารกระทบความเย็น
- ไม่ควรกินร่วมกับเต้าหู้ เนื่องจากเต้าหู้มีรสหวาน เค็ม มีคุณสมบัติเย็น สรรพคุณขับร้อนกระจายเลือด เมื่อกินร่วมกันทำให้ท้องเสียง่าย อีกเหตุผลหนึ่งคือ เอนไซม์จากน้ำผึ้งจะทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุ โปรตีน สารอินทรีย์ของเต้าหู้ จะทำให้คุณค่าทางโภชนาการด้อยไป
- ไม่ควรกินพร้อมผักกุยช่าย เพราะ กุยช่าย มีวิตามินซีมาก จะทำปฏิกิริยากับโลหะทองแดง และเหล็กในน้ำผึ้ง เกิดออกซิเดชัน ทำให้คุณค่าด้อยลง อีกเหตุผลหนึ่ง น้ำผึ้งทำให้ระบาย กุยช่ายมีเส้นใยมาก เมื่อกินร่วมกันจะทำให้ท้องเสียง่าย
- ไม่ควรกินร่วมกับหัวหอมและกระเทียม จะทำให้ฤทธิ์ของน้ำผึ้งด้อยลง
- น้ำผึ้งมีรสหวานมาก แต่ไม่มีสรรพคุณที่ทำให้เกิดความอ้วน นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ลดกรดของไขมัน
- น้ำผึ้งไม่ทำให้เกิดฟันผุ เหมือนน้ำตาลหรือลูกกวาดทั่วไป แต่กลับทำให้การงอกของฟันดีขึ้น
- มีบางรายงานเชื่อว่า น้ำผึ้งมีฤทธิ์ยับยั้งการก่อตัวของนิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดี
- มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง เป็นยาอายุวัฒนะ
- ฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร รักษาแผลกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น โรคบิด ลำไส้อักเสบ
- น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย บำรุงและเลือด บำรุงสมอง ช่วยความจำ ทำให้นอนหลับ
- น้ำผึ้งจากเกสรดอกลิ้นจี่ แก้กระหาย กระตุ้นน้ำลาย บำรุงหัวใจและไต
- น้ำผึ้งจากเกสรเบญจมาศป่า ขับร้อนขับไฟ ขับลมแก้พิษ
- น้ำผึ้งจากเกสรอบเชยป่า ขับร้อนกระตุ้นความอยากอาหาร บำรุงม้าม บำรุงประสาท
- น้ำผึ้งจากเกสรของส้ม ลดบวม-ขับพิษ แก้กระหายน้ำ
- ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง
- ควรดื่มหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง