แค่อยากเลือกตั้ง หรือ มีเป้าหมายอื่นใด ?

by ThaiQuote, 17 มกราคม 2562

เมื่อจับดูประเด็นใจความหลัก  เหตุที่ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจาก มีความกังวลว่า จะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง  เพราะถึงวันนี้ ยังไม่มีการประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนออกมาจาก กกต.  หรือ เกรงว่า หากการเลือกตั้งล่าช้าออกไปจนเลยกำหนดวันตามกรอบของ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วันนับตั้งแต่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวของกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จ จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นโมฆะได้  ทำให้รัฐบาลปัจจุบันยังคงอยู่ในอำนาจต่อไป โดยทางกลุ่มการเมืองเหล่านี้มองว่า เป็นการใช้เล่ห์ เทคนิคทางกฎหมายเพื่อสืบถอดอำนาจออกไป

แม้ว่า ทางรัฐบาลและ กกต. จะพยายามชี้แจ้งเหตุผล เหตุแห่งความจำเป็นที่ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป  และยืนยันว่า ถึงอย่างไรการเลือกตั้งจะอยู่ภายใต้กรอบ 150 วันตามกฎหมายแน่นอนก็ตาม ทางกลุ่มการเมืองเหล่านี้ ก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะจนถึงวันนี้ ยังไม่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึง พรฏ.เลือกตั้งส.ส. ออกมา  ทำให้ กกต.ยังไม่สามารถกำหนดวันที่แน่นอนได้  โดยขั้นตอน การประกาศ  ไพศาล  พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาเตือนไปยังผู้ชุมนุมอย่างน่าสนใจ ว่า

“ ถ้าไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป กกต.ก็ไม่มีอำนาจจัดการเลือกตั้งได้!  พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป จะเกิดขึ้นได้ ต้องประกอบด้วย 3 กระบวนการคือ

1รัฐบาลมีหน้าที่กราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป

2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ตราพระราชกฤษฎีกา

3 ได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา

ดังนั้น ตอนนี้จึงไม่ใช่ปัญหาว่ากกต.จะกำหนดการเลือกตั้งเมื่อใด  เพราะกกต.ยังไม่มีอำนาจที่จะกำหนดอะไรทั้งนั้น  จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ”

สำหรับขั้นตอนเหล่านี้ ถามว่า บรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ นักการเมือง ทราบดีหรือไม่ ...แน่นอนว่าทั้หมดน่าจะทราบดีในแต่ละขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ทำไม่ถึงยังมีการปั่นกระแส ไม่เอาเลื่อนเลือกตั้ง ไล่ถล่มรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ? หรือคำถามที่ตามมาว่า ทำไม่ถึงยังมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลจ้องจะหาทางสืบทอดอำนาจ อยากอยู่ต่อไป...? บางคนถึงขึ้นกล่าวหาว่า เป็นเพราะรัฐบาลอยู่ในสภาพ บริหารประเทศไม่ได้...เลยเถิดไปไกลขนาดนั้น  เพราะอะไร ?

หากลองไปดูประเด็นการเรียกร้องของ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ประกาศเป็นคำขาดเสนอ 3 ข้อ ต่อรัฐบาลหากมิฉะนั้นจะยกระดับการชุมนุม มีดังนี้

1ไม่เลื่อนวันเลือกตั้งให้เลยหลัง 10 มี.ค.นี้ เพราะจะเสี่ยงให้ กกต.ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งภายในกรอบ 150 วัน อาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ และกลายเป็นโมฆะ

2 ไม่ล้มเลือกตั้งด้วยเล่ห์กลหรือข้ออ้าง เทคนิคทางกฎหมายใด ทั้งที่มีความพยายามทำอยู่ในวันนี้ และที่จะมีขึ้นในอนาคต

3 ไม่ต่อเวลา ให้กับการดำรงอยู่ในอำนาจของตนเอง ผ่านกลไกตามรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบ ไม่ว่าจะในรูปใช้เสียง ส.ว. 250 คน จากการแต่งตั้ง มาสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ใช้ความเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ใช้งบประมาณและโยกย้ายข้าราชการอย่างไร้การตรวจสอบระหว่างช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการเลือกปฏิบัติ เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งล้วนเป็นการโกงการเลือกตั้งทั้งสิ้น

ทั้งนี้หากมีการเลื่อนเลือกตั้งอีก จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผิดสัญญาเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 5 ปี ที่เคยให้สัญญาไว้ต่อสังคมไทยและสังคมโลก

โดยภายในวันที่ 18 ม.ค. หากยังไม่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.ในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเปิดทางให้ กกต. กำหนดวันเลือกตั้ง จะยกระดับการชุมนุมสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันเสาร์ที่ 19 ม.ค. เวลา 17.00 น. ต่อไป

จะเห็นได้ว่า ข้อเรียกร้องของ กลุ่มการเมือง ในเรื่องเงื่อนไขเวลาการกำหนดวันเลือกตั้งนั้น น่าจะเป็นเพียงเงื่อนไขของการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่จุดยืนของกลุ่มการเมืองเหล่านี้  ค่อนข้างชัดเจนว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล เคยเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในประเด็นอื่นๆมาก่อนหน้านี้ อยู่แล้ว  เชื่อได้ว่ากลุ่มการเมืองกลุ่มนี้มีความเข้าใจข้อกฎหมาย และ รู้ถึง เหตุจำเป็นของการขอเลื่อนการเลือกตั้งออกไปดี  เพราะ การเสนอเลื่อนออกไป เป็นการเสนอที่มีกรอบเวลาชัดเจน ว่า ถึงอย่างไรต้องดำเนินการให้ทันตามกรอบของรัฐธรรมนูญ  ไม่ใช่การเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด 

แต่ทางกลุ่ม ก็พยายามทำลายความเชื่อถือของ คำมั่นเหล่านี้ โดยการกล่าวอ้างถึง ความพยายามสืบทอดอำนาจ ของรัฐบาล เป็นการทำลายเครดิต เป็นการต่อสู้ทางความเชื่อทางการเมืองมากกว่า ยิ่งยังไม่มี ประกาศ พ.ร.ฎ.ในราชกิจจานุเบกษา ออกมา ก็ยิ่งนำมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลทำลายความน่าเชื่อถือไปได้ตลอด

แต่ประเด็นสำคัญที่เป็นจุดยืนของกลุ่มการเมืองนี้  เป็นประเด็นหลักที่ออกมาเคลื่อนไหว คือ ประเด็นที่ 3 มากกว่า ในประเด็นนี้  เผยให้เห็นถึงความชัดเจนว่า  แม้จะมีการเลือกตั้ง เดินหน้าไปจนกระทั้ง มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หาก เป็นพรรคการเมืองที่  กลุ่มการเมืองนี้เห็นว่า เข้าก็เป็นการมาต่อเวลา สืบทอดอำนาจให้กับ รัฐบาล คสช. เข้ามาเพราะ รัฐบาลนี้ไปเอื้ออำนวยให้ได้เปรียบ ฯ พวกเขาก็ยังต่อต้านอยู่ดี  เพราะ ตามเหตุผลของข้อ 3 เป็นเหตุผลที่กล่าวหาล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้วว่ามีการใช้อำนาจเพื่อให้ได้เปรียบ เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง  ดังนั้น หากพรรคการเมืองที่อยู่ตรงกันข้ามกับกลุ่มการเมืองนี้ชนะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น  เขาก็มีเหตุผลที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านต่อไป   การออกแบบการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองของ คนอยากเลือกตั้งครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่อยากเลือกตั้งเท่านั้น ...

โดย...ประภาคาร