สธ.เตือนอย่าเชื่อข่าวมั่ว อ้างมีคนตายจากฝุ่น PM2.5

by ThaiQuote, 17 มกราคม 2562

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แจ้งเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่อ้างว่ามีผู้เสียชีวิตจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ขณะนี้พบการแชร์ข่าวมั่วทางโซเชียล อ้างว่าได้รับฝุ่น PM2.5 จนเกิดอาการผิวหนังพุพองและช็อคเสียชีวิต แต่ข้อเท็จจริงเป็นการนำรูปผู้ป่วยแพ้ยาจากเพจอื่นมาสร้างความตื่นกลัวให้สังคม ฉะนั้นหากประชาชนพบเห็นข่าวดังกล่าว กรุณาอย่าเชื่อ และ อย่าแชร์ต่อ

นอกจากนี้วันนี้ (17 ม.ค.62 ) นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลกระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งสร้างความรอบรู้ประชาชน เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด และผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญในการป้องกันตนเอง และตรวจสอบสภาพอากาศ เนื่องจากไม่ได้มีความเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ช่วยกันลดปริมาณฝุ่นควันจากการเผาขยะ การขับรถควันดำ ทำความสะอาดเช็ดถูบ้านให้สะอาด สำหรับกลุ่มครู ครูพี่เลี้ยง ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสอนวิธีการป้องกันตนเองเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และให้สังเกตอาการนักเรียน เด็กเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ กลุ่มเสี่ยงขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมและการออกกำลังกายกลางแจ้งเมื่ออยู่ในพื้นที่และในช่วงที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษแจ้งเตือน

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ใช้หน้ากากอนามัยชนิดธรรมดาก็เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือการออกนอกบ้าน สำหรับผู้ทำงานหนักกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น ตำรวจจราจรที่ทำงานกลางแจ้ง วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง คนงานที่ทำงานก่อให้เกิดฝุ่น ควรสวมใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เช่น N95 และใส่ให้ถูกวิธี ไม่ให้มีอากาศรั่วเข้าไป

ทางด้านจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพผลกระทบในช่วงฤดูแล้งของทุกปี จังหวัดนครราชสีมา จะประสบปัญหาไฟป่า และหมอกควัน จากการตรวจสอบค่าฝุ่นละอองในอากาศพบว่ามีปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในกรณี การเผาในพื้นที่เขตทางหลวง ส่งผลให้จังหวัดนครราชสีมา ต้องสูญเสียงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมาก จังหวัดนครราชสีมาพิจารณาแล้วจึงขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติ ดังนี้...

          

1.ห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่เกษตรกรรม ช่วงฤดูแล้งปี 2561-2562 ทั้งนี้หากมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องเผาในพื้นที่เกษตรกรรม จะต้องทำแนวกันไฟและควบคุมการเผาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้แจ้งขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้น ก่อนเข้าดำเนินการทุกครั้ง

          2.ห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่ริมทางหลวง และริมทางหลวงท้องถิ่น ซึ่งหากพบเห็นให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเขตทางหลวงนั้น เข้าดำเนินการระงับเหตุ รวมทั้งให้มีการบังคับใช้กฏหมายทางหลวงกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด

          3.หากพบเห็นไฟป่า ไฟไหม้ในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ พื้นที่ริมทางหลวง หรือพื้นที่ริมทางหลวงท้องถิ่น ขอให้ช่วยดับไฟ และหากไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้แจ้งหน่วยงานควบคุมไฟป่าอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโทรสายด่วนได้ที่ สายด่วนไฟป่า 1362 สายด่วนทางหลวง 1586 และสายด่วนทางหลวงชนบท 1141 สายด่วนนิรภัย 1784 แจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

          4.ผู้ใดฝ่าฝืนจุดไฟเผาป่าหรือเผาในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2485 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งเทศบัญญัติ หรือข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ละแห่งที่ได้กำหนดไว้โดยมีบทกำหนดโทษตามกฏหมายดังกล่าวกำหนด