วันนี้ (13 ก.พ.62) เวลา 8.00 น.กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทุกพื้นที่ ทั้งนี้ สาเหตุจากลมใกล้ผิวพื้นสงบ ส่วนลมระดับสูง มีกำลังอ่อนลง และมีความกดอากาศสูงกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุม ซึ่งก่อให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เบื้องต้นพบ 2 จุดที่เห็นได้ชัด คือ บริเวณเขตหลักสี่ และบางเขน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่คุณภาพอากาศมีแนวโน้มค่า PM2.5 สะสมเพิ่มขึ้น เช่นบริเวณเขตวังทองหลาง และลาดพร้าว ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศพบว่าเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในโซนสีส้ม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ เด็ก และคนชรา ส่วนบุคคลทั่วไปถือว่าได้รับผลกระทบไม่มากนัก
อย่างไรก็ตาม พบว่าเริ่มมีประชาชนจากหลายพื้นที่สังเกตเห็นปริมาณฝุ่นละอองในอากาศแล้ว หลังก่อนหน้านี้สถานการณ์คลี่คลาย มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยหลายหน่วยงานยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาพร้อมเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดการสะสมของปริมาณฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านการคาดการณ์สถานการณ์จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. คาดว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง จะช่วยให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลง

ส่วนศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า เดิมคาดการณ์กันว่าฝุ่นละอองจะกระทบการใช้ชีวิตของคนกรุงประเมิน 1 เดือน เเต่สถานการณ์ที่ยืดเยื้อ ที่วันนี้เเม้จะเบาบางลงเเต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ทำให้ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัดประเมินใหม่ โดยปรับระยะเวลาที่จะส่งผลกระทบเป็น 65 วัน คือ ประมาณ 2 เดือนระยะเวลา 2 เดือน เราเสียโอกาสโดยเฉพาะในประเด็นสุขภาพ และด้านการท่องเที่ยว รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ คิดเป็นเม็ดเงินอย่างน้อย 14,500 ล้านบาท