นักวิชาการ ห่วง PM2.5 ไทยเข้าขั้นวิกฤติ หวั่นลุกลามเกินเยียวยา แนะกลยุทธ์รวมศูนย์อำนาจสั่งการ เชื่อมเครือข่ายร่วมแก้ปัญหา แบบบูรณาการข้ามหน่วยงาน ปิดช่องว่างจัดการวัสดุเหลือสินค้าเกษตรเน้นสร้างอาชีพ เสริมรางวัล ร่วมกันลงมือทำอย่างพร้อมเพรียง
ไทยปรับมาตรฐานโรงกลั่นน้ำมันสู่ยูโร5 ตามรอย ยุโรป อเมริกา สิงคโปร์และจีน คุมเข้มมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ สกัดฝุ่นควันPM2.5
ภายในงานเสวนา “Green Wishes” มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการดำเนินธุคกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG)
“ทิพานัน” ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่นิ่งนอนใจต่อปัญหา PM2.5 แจงที่ผ่านมากำชับและสั่งการกว่า 30 ครั้ง หลังจากนี้เร่งกำชับไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ดำเนินการป้องกัน-ควบคุม-เยียวยาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งภาวะโลกร้อน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก มลพิษต่างๆ ไทยต้องรับมือเน้นใช้หลัก 2P-2R เพื่อสร้างอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดีและช่วยลดกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ประเทศไทยตอนนี้กำลังจมอยู่ใต้ฝุ่นควันที่เกินค่ามาตรฐานมาแล้วเกือบ 2 เดือน ถึงแม้จะมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ผลกระทบที่ได้รับกลับร้ายแรงเกินคาด แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงแค่ไหนแต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้ก็ยังสามารถผ่านเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ
จากวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในอากาศมีปริมาณเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลให้เกิดสภาวะมลพิษทางอากาศในประเทศไทย โดยปริมาณการสะสมของฝุ่นในอากาศมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
นายกฯมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5เป็นวาระอาเซียน ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย หน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนจากผลกระทบฝุ่น PM 2.5ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและจังหวัดติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเ
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนวาระแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ทั้งการรณรงค์และควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงสร้างความชุ่มชื้นผืนป่าป้องกันไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน
กรมอนามัยเตือนประชาชนชาว กทม. เตรียมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อมแนะประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ โรคหั