ทุกภาคส่วนตื่นตัววิกฤติฝุ่นควัน เชียงใหม่หนัก! หมอชี้ คล้ายคนสูบบุหรี่

by ThaiQuote, 3 เมษายน 2562

สถานการณ์ฝุ่นควันจังหวัดภาคเหนือวิกฤติหนัก “บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา ชาวชียงใหม่วอนนายกฯ วางแผนแก้ระยะยาว ด้านหมอชี้ PM 2.5 มีผลต่อสุขภาพระยะยาวเท่าบุหรี่ 1 มวน

ปัญหาค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือกำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ พร้อมสั่งทุกหน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ให้สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 7 วัน

“บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ลั่นต้องดีขึ้นภายใน 7 วัน

 

 

สถานการณ์ฝุ่นควันจังหวัดภาคเหนือวิกฤติหนัก “บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา ชาวชียงใหม่วอนนายกฯ วางแผนแก้ระยะยาว ด้านหมอชี้ PM 2.5 มีผลต่อสุขภาพระยะยาวเท่าบุหรี่ 1 มวน

ปัญหาค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือกำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ พร้อมสั่งทุกหน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ให้สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 7 วัน

“บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ลั่นต้องดีขึ้นภายใน 7 วัน

 

จ.เชียงใหม่ วันที่ 2 เม.ย.62 - ขณะที่นายกรัฐมนตรี กำลังประชุมร่วมกับรัฐมนตรีและอธิบดี ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งทุกภาคส่วน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหออกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน นั้น ได้มีกลุ่มชาวเชียงใหม่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ปัญหา นำป้ายที่เขียนข้อความเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหา เข้ามาเรียกร้องเพื่อสื่อสารไปถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่ม ได้ระบุว่า เหตุผลที่รวมตัวกันมาชูป้ายต้อนรับนายกฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาโดยตลอด และเห็นว่าปัญหานี้เกินกำลังและขีดความสามารถที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยงานในระดับพื้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งมีเพียงนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้นที่จะ สั่งการแก้ไขได้

เบื้องต้นจากรายการปัญหาที่เกิดขึ้น มองว่ามีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้มีการกำหนดแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเป็นประจำทุกปีจากนี้เป็นต้นไป

ปภ.รายงาน 7 จ.ภาคเหนือคุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ระดับสีแดง

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงาน 7 จังหวัดภาคเหนือคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้เปิดเผยข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2562 เวลา 05.00 น.

พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 รวม 7 จังหวัด ได้แก่

เชียงราย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย
เชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก ตำบลศรีภูมิ ตำบล สุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม
ลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ
ลำพูน ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน) แม่ฮ่องสอน (ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
น่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
พะเยา ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา

โดยมีค่า PM2.5ระหว่าง 57 – 242 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 79 – 274 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 126 – 352 ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง)

แพทย์ชี้ ทุก 22 ไมโครกรัมต่อ ลบ. ม. ของ PM 2.5 มีผลต่อสุขภาพระยะยาว เท่ากับบุหรี่ 1 มวน

 

ขณะที่นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ผ่าน amarintv ระบุว่า คนเชียงใหม่ในขณะนี้ประสบกับปัญหาฝุ่นควันพิษ ที่รุนแรงต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะปอด

เพราะปัญหาฝุ่นควันนี้มีผลต่อสุขภาพสะสม และอันตรายมาก บางคนมองไม่เห็น ทำให้ อายุไขลดลง เพิ่มอัตราการตาย ปีนี้เป็นปีที่หนักมาก ไม่เคยพบเคยเห็น ค่าที่ 600- 700 ไมโครกรัมมาก่อน ซึ่งรัฐบาลไม่ควรละเลยกับเรื่องนี้ เพราะผลกระทบไม่ใช่ระยะสั้น เพียงแค่การแสบตา หรือ แสบจมูก แต่ มันคือผลกระทบระยะยาว ทำให้คนเป็นโรคหัวใจ มะเร็งตามมา

โดยสิ่งที่กังวลคือทุก 22 ไมโครกรัมต่อ ลบ. ม. ของ PM 2.5 มีผลต่อสุขภาพระยะยาว เท่ากับ บุหรี่ 1 มวน
ทั้งนี้ อยากให้เกิดความตระหนักในหมู่ประชาชน และภาครัฐ ให้การแก้ปัญหาฝุ่นควันในภาคเหนือเป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น กลาง และระยะยาวต่อไป

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
คนเชียงใหม่บุกถึงตัว "บิ๊กตู่" วอนประกาศเขตภัยพิบัติ แก้วิกฤติฝุ่น