ลำดับเหตุการณ์คดี “บิลลี่ พอละจี” หายตัว 5 ปี

by ThaiQuote, 4 กันยายน 2562

Timeline คดี “บิลลี่ พอละจี” นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน หายตัวลึกลับ 5 ปี ก่อนพบโครงกระดูกในสภาพที่ถูกเผาอำพราง DSI ยืนยันเสียชีวิต

วันที่ 3 ก.ย.62 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวบ้านกระเหรี่ยงที่เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ 5 ปี โดยยืนยันว่า นายพอละจีเสียชีวิตแล้ว จากการพิสูจน์โครงกระดูกที่พบใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน

อ่านข่าว “ชัดแล้ว "กระดูกที่แก่งกระจาน" คือร่าง "บิลลี่"

บิลลี่ คือใคร?

บิลลี่ มีชื่อจริงว่า นายพอละจี รักจงเจริญ ชาติพันธุ์เชื้อสายกระเหรี่ยง เกิดและอาศัยอยู่ในพื้นที่บางกลอยบน ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นหลานชายของปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยบิลลี่เป็นผู้มีความรู้เนื่องจากได้รับการศึกษา สื่อสารภาษาไทยได้ชัดเจน เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านและคนในพื้นที่ให้เป็นแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง และเป็นตัวแทนเพื่อต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน

โดยบิลลี่หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 จนล่าสุด เจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกของเขาใกล้ถังน้ำมัน ในสภาพที่ถูกเผาอำพราง

Timeline “บิลลี่ พอละจี” หายตัว 5 ปี ก่อน DSI พบเศษกระดูก ยืนยันเสียชีวิต

17 เม.ย.57 บิลลี่หายตัว

บิลลี่เดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อไปตัวอำเภอแก่งกระจาน โดนนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ควบคุมตัวในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่า 3 ขวด ซึ่งนายชัยวัฒน์ระบุว่าเพียงแต่เรียกมาตักเตือน และปล่อยตัว

24 เม.ย.57 ภรรยาบิลลี่ยื่นคำร้องต่อศาล จ.เพชรบุรี

นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ ได้ไปร้องต่อศาล จ.เพชรบุรี ข้อหาควบคุมตัวบิลลี่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเชื่อว่าบิลลี่ยังคงถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติควบคุมตัว

2 ก.ย.57 ศาลยกคำร้องข้อหาควบคุมตัว

ศาล จ.เพชรบุรี มีหมายเรียก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายเกษม ลือฤทธิ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ให้มาไต่สวนตามคำร้อง หลังจากสอบสวน รวมทั้งไต่สวนเพิ่มเติมจากพยานอื่น ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องของ น.ส.พิณนภา

6 ส.ค.58 ภรรยาบิลลี่ยื่นหนังสือต่อ DSI ให้รับเรื่องบิลลี่เป็นคดีพิเศษ

หลังจากการหายตัวไปของบิลลี่ ทางครอบครัวพยายามเรียกร้องความยุติธรรม น.ส.พิณนภาได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงการยื่นหนังสือต่อ DSI ให้รับเรื่องบิลลี่เป็นคดีพิเศษ

16 ม.ค.60 DSI ไม่รับคดีบิลลี่เป็นคดีพิเศษ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ

1.ยังหาข้อสรุปจากการสืบสวนไม่ได้
2.อาจสอบสวนได้ในกรณีพบร่างของบิลลี่เท่านั้น
3.น.ส.พิณนภาไม่มีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียน เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรส

28 มิ.ย.61 DSI รับเป็นคดีพิเศษ

DSI ยอมรับเป็นคดีพิเศษในวันที่ 28 มิ.ย.61 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของคดีนี้ และเริ่มสอบสวนหาหลักฐาน จนในช่วง เม.ย.-พ.ค.62 DSI ได้ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ใช้เครื่องยานยนต์สำรวจใต้น้ำ รวมถึงนักประดาน้ำตรวจหาพยานหลักฐานที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จนพบหลักฐานสำคัญคือถัง 200 ลิตรและซากกระดูกมนุษย์

3 ก.ย.62 DSI ยืนยันบิลลี่เสียชีวิต

DSI แถลงผลการตรวจ หลังจากพบชิ้นส่วนกระดูก จำนวน 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง เหล็กเส้น จำนวน 2 เส้น ถ่านไม้ จำนวน 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน ระบุว่า เป็นชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ มีรอยไหม้สีน้ำตาล ร่วมกับรอยแตกร้าว และการหดตัวของกระดูก จากการถูกความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 200 – 300 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ จากการตรวจพบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายพอละจี และเมื่อพิจารณาจากสถานที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานในสำนวนอื่นประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงเชื่อว่า วัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของ “นายพอละจี รักจงเจริญ ที่เสียชีวิตแล้ว

ปริศนาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาคลี่คลาย ด้วยบทสรุปคือ “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ สียชีวิตแล้ว แต่ยังคงเหลือคำถาม “ใครเป็นคนฆ่า?”

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“ชัดแล้ว "กระดูกที่แก่งกระจาน" คือร่าง "บิลลี่"