“ดาว ผนึกกำลัง เอสซีจี” เดินหน้าลดขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน

by ThaiQuote, 6 กันยายน 2562

บริษัท ดาว ร่วมกับ เอสซีจี ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชัน เพื่อนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ เพิ่มมูลค่า ลดการหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม

วันนี้ (6 ก.ย.62) บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ทำพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Business Collaborations on Circular Economy) เพื่อมุ่งสู่พัฒนาธุรกิจรีไซเคิล ของกลุ่มดาว และ เอสซีจี ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการด้านการรีไซเคิลเชิงกล การรีไซเคิลทางเคมี และการแปลงขยะเป็นพลังงาน สู่การบริหารจัดการขยะพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาพลาสติกใช้แล้วอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้งเป็นโซลูชันเพื่อการรีไซเคิล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะพลาสติกในประเทศไทย”

มร.โจนาธาน เพนไรซ์ ประธานบริษัท ดาว ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ภาคอุตสาหกรรมและทุกคนในสังคมจำเป็นต้องช่วยกันนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ด้วยการจัดเก็บและการจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยต้องลงทุนในด้านเทคโนโลยีในการจัดเก็บ การบริหารจัดการขยะ การรีไซเคิล ตลอดจนการหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับขยะพลาสติกเหล่านั้น
ปัจจุบัน ดาว ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกในการนำขยะพลาสติกมาใช้ประโยชน์และรีไซเคิลใหม่ในรูปแบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานร่วมกับเอสซีจีในครั้งนี้ จะช่วยให้เราทำให้โลกไม่มีขยะพลาสติกออกไปสู่สิ่งแวดล้อม”

ทั้งนี้ ข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ดาว และ เอสซีจี ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสององค์กรในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก เพื่อลดปริมาณการรั่วไหลของพลาสติกไปสู่สิ่งแวดล้อม

ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการด้านการรีไซเคิล Mechanical Recycling การรีไซเคิลพลาสติกกลับเป็นวัตถุดิบ (Feedstock Recycling) และการนำวัตถุดิบหมุนเวียนมาผลิตพลาสติก (Renewable Feedstock) ที่เกิดขึ้นในความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เม็ดพลาสติกรีไซเคิล ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลจากขยะพลาสติก วัตถุดิบปิโตรเคมีจากขยะพลาสติก เม็ดพลาสติกที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นต้น

“เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นโอกาสทางธุรกิจและเป็นอีกหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ดาว จะนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ และประสบการณ์ทางธุรกิจกว่า 50 ปีในประเทศไทย มาพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติกในประเทศต่อไป” มร.โจนาธาน กล่าว

ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะตอบโจทย์ปัญหาสังคม ยังตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่จะเพิ่มอัตราการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ภายในปี พ.ศ.2570 จากการที่ขยะพลาสติกหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมถือเป็นปัญหาที่สำคัญในปัจจุบัน ที่ผ่านมา ดาว และ เอสซีจี จึงได้คิดค้นวิธีการและนวัตกรรมในการช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีที่นำขยะพลาสติกมาเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของถนนยางมะตอยและลานจอดรถจากพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับขยะพลาสติกที่มีมูลค่าต่ำ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดหลายชั้นและขยะพลาสติกที่ปนเปื้อน

 


ระบบเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นแบบเส้นตรง (Linear Economy) คือนำทรัพยากรธรรมชาติมาผลิตใช้แล้วก็ทิ้งไป แต่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดด้วยกระบวนการใช้ซ้ำ หมุนเวียนกลับมาใช้ และการรีไซเคิลแปรรูปเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ซึ่งมีความยั่งยืนกว่าและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน

โดยที่ผ่านมา ดาว และ เอสซีจี ได้เป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตรเพื่อกำจัดขยะพลาสติก หรือ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) ซึ่งร่วมกับสถาบันการเงิน ภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในการร่วมกันสร้างสรรค์โลกที่ปราศจากขยะพลาสติกให้เป็นจริงได้ในที่สุด


ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
อ่าวนาง..ภูมิใจเสนอ “สายตรวจซาเล้ง” ไอเทมลับ จัดการปัญหาขยะอย่างยั่งยืน