ไปรษณีย์ไทยสุดเจ๋ง นำร่องใช้รถ “EV” ขนส่งสินค้า

by ThaiQuote, 13 กันยายน 2562

ปณท. เซ็น MOU กฟภ. นำร่องทดลองใช้รถ EV ขนส่งสินค้า- พัสดุ ชูลดต้นทุนการขนส่ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นางสมร เทิดธรรมพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เปิดเผยว่า โครงการนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในการขนส่งไปรษณีย์ มีการพูดคุยเรื่องนี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยเคยนำเข้ามาทดลองใช้ 2 คัน ที่ จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ขณะนั้นยังไม่ตอบโจทย์ และมีอุปสรรคหลายด้าส จึงหยุดการทดลองใช้ไป

สำหรับในครั้งนี้ ปณท.จึงได้นำโครงการดังกล่าวกลับมาพิจารณาใหม่ เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และการแข่งขันด้านการขนส่งที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการทดลองใช้รถ EV ในการขนส่งพัสดุไปรษณีย์ เพื่อความได้เปรียบและเป็นผู้นำด้านการจัดส่งสินค้าของประเทศ ทั้งในเรื่องของการต้นทุน ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น ปณท.จึงได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ให้เป็นผู้รับจัดหารถยนต์ EV ให้ โดยถือเป็นการลงนามสัญญาระหว่างองค์กรรัฐด้วยกัน

ด้านนายชัยยุท สัฏชนะ หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์คลองหลวง กล่าวว่า รถที่ กฟภ. นำมามอบให้ทดลองใช้ในครั้งนี้ พบว่ารถรุ่นนี้มีการทำงานได้ดีเหมือนรถยนต์ทั่วไป เคยทดสอบขับลุยน้ำ 30 ชม.ก็ไม่มีปัญหาอะไร ใช้ง่าย ประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายเพียง กม.ละ 0.50 บาท ขณะที่รถยนต์ปกติ มีต้นทุนราคาน้ำมันอยู่ที่กม.ละ 2 – 3 บาท

ข้อสำคัญที่ผ่านมา เราใช้บัตรเติมน้ำมันให้พนักงานไปรษณีย์ ซึ่งควบคุมค่าใช้จ่ายได้ยาก คือเราไม่รู้ว่าเมื่อเติมแล้ววิ่งในงาน หรือนอกงาน จอดนอนหรือเอาไปเติมคันอื่นตรวจสอบยาก แต่ถ้าใช้รถ EV จะแก้ปัญหาได้ทั้งหมด คือพนักงานขับรถจะต้องนำรถกลับมาชาร์จไฟที่สำนักงาน ตัดปัญหาเรื่องการควบคุมค่าใข้จ่ายบัตรเติมน้ำมันไปได้

ระยะต่อไปที่จะทดลองจากนี้คือ การวิ่งในระยะทางปกติที่ประมาณ 160 กม./วัน ว่าสามารถใบ้งานได้ปกติหรือไม่ ซึ่งตามสมรรถนะของรถสามารถชาร์จครั้งเดียว วิ่งได้ 300 กม. โดยจะนำมาทดลองใช้ขนส่งสินค้าใน สาขาคลองหลวง ที่มีพื้นที่มากถึง 327 ตร.กม.

ขณะที่นายเลิศชาย แก้ววิเชียร ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า การที่ กฟภ. ร่วมกับ ปณท. ลงนาม MOU เพื่อจัดหารถ EV ประหยัดพลังงาน ถือเป็นส่วนหนึีงของการเปิดธุรกิจใหม่ใน 2 ด้าน ด้วยกันคือ ธุรกิจประหยัดพลังงาน ประหยัดการใช้ไฟฟ้าในอาคาร เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ แอร์ การติดตั้งโซลาเซลส์สำหรับอาคาร และการจัดหารถ EV ให้กับองค์กรต่างๆโดยที่ กฟภ.เป็นผู้ลงทุนให้ทั้งหมด องค์กรต่างๆ ทะยอยจ่าย และเราคิดค่าใช้จ่ายต่ำจากอัตราประหยัดพลังงาน เช่น ประหยัดพลังงานได้ 100 บาท องค์กรต่างๆ จ่ายให้ กฟภ. แค่เพียง 90 บาท

่ ทั้งนี้รายละเอียดของ MOU ดังกล่าว กฟภ.มีหน้าที่จัดหารถที่มีเทคโนโลยีเหมาะสมมาให้องค์กรต่างๆ ใช้ โดยในกรณีของ ปณท.เอง เราก็ต้องจัดหารถที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งาน ประหยัดพลังงาน คุ้มค่ากว่ารถใช้น้ำมัน โดยเป็นรถที่นำเข้ามาโดย บริษัทแอดวานซ์ เพาเวอร์เทค จำกัด

อย่างไรก็ตามข้อสำคัญคือ เราต้องพิสูจน์ให้คนทั่วไป และภาคเอกชน เห็นว่า รถ EV ใช้งานได้จริง ต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นการเอื้อประโยชน์กันระหว่างหน่วยงานรัฐ ถ้าใช้งานได้จริงได้ดี ต่อไปภาคเอกชนเกิดความมั่นใจ และกฟภ.มีหน้าที่เป็นส่วนร่วมในการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกดังกล่าว

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

UK เคาะ นศ.ต่างชาติเรียนจบอยู่ต่อได้อีก 2 ปี หวังช่วยพัฒนา "สหราชอาณาจักร"