โชห่วยร้อน ร้องนายกฯ ก.คลัง สรรพสามิต ค้านขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ชี้ต้นทุนแพง รายได้ลด

นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ในฐานะตัวแทนของร้านค้าปลีกที่ขายยาสูบ เตรียมยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิต เพื่อจะได้รับทราบปัญหาถึงปัญหาผลกระทบจาการขึ้นภาษียาสูบและขอให้พิจารณาชะลอการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปก่อน

ทั้งนี้จากการสำรวจผลกระทบร้านค้าพาปลีกจากนโยบายการขึ้นภาษียาสูบที่จัดทำโดยนิด้าโพล พบว่า ร้านค้าโชห่วยที่ขายยาสูบใน 7 จังหวัด กรุงเทพฯ อุบลราชธานี อุดรธานี เชียงใหม่ เชียงราย นครศรีธรรมราช และสงขลา ส่วนใหญ่ 95% กังวลจะถูกผลกระทบในการขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% ในปี 2563 ทำให้รายได้การขายบุหรี่ลดลง ต้นทุนบุหรี่แพงขึ้น

สำหรับผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ร้านค้าปลีกถึง 68% บอกว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาขายของได้น้อยลง และ 73% บอกว่าขายยาเส้นได้น้อยลงตั้งแต่ขึ้นภาษียาเส้น เมื่อเดือนพ.ค. 2562 ทีีผ่านมา

ขณะที่อีก 83% บอกว่าขายบุหรี่ได้น้อยลงตั้งแต่ขึ้นภาษีบุหรี่ เมื่อเดือนก.ย. 2560 ที่ผ่านมา และร้านค้าเกือบทั้งหมดยืนยันเสียงเดียวกันว่า ไม่เห็นด้วย กับการขึ้นภาษีบุหรี่รอบหน้าจาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค.63 เพราะจะทำให้รายได้จากการขายของลดลงและประสบปัญหาเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงการคลังขึ้นภาษียาสูบและยาเส้น ทำให้ราคาบุหรี่ถูกที่สุดแพงขึ้นกว่า 50% จนปัญหาบุหรี่เถื่อนรุนแรงขึ้น และผู้สูบบุหรี่หันไปสูบยาเส้นที่มีราคาถูกกว่าแทน ดังนั้นถ้ารัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีขอให้ทยอยปรับขึ้นเป็นช่วงๆ เพื่อให้ร้านค้ามีเวลาปรับตัว หากขึ้นที่เดียวเป็น 40% ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมบุหรี่จะได้รับผลกระทบทั้งหมด