"บ้างาน" พฤติกรรมวิกฤตของ "ชาวออฟฟิศญี่ปุ่น"

by ThaiQuote, 6 พฤศจิกายน 2562

กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะในหมู่แวดวง "ไวท์คอล่า" หรือชาวหนุ่มสาวออฟฟิศ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในดินแดนอาทิตย์อุทัย หรือประเทศญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มว่า "พนักงานออฟฟิศ" ของญี่ปุ่นจะครองแชมป์ "ไม่ลาพักร้อน" สูงที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ของญี่ปุ่น เปิดเผยแนวโน้มว่าพนักงานออฟฟิศของพวกเขาจะเป็นเบอร์หนึ่งอีกครั้งกับการทำงานหนัก โดยไม่ลาพักร้อนของโลก หากเทียบกันกับ 19 ประเทศทั่วโลกที่พัฒนาแล้ว


สิ่งนี้ในสังคมญี่ปุ่นถูกบัญญัติเรียกเอาไว้ว่า "Karoshi" (คาโรชิ) หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ความคลั่งในงาน" และคาโรชิที่ว่าถูกแทรกซึมเข้าสู่ความคิดของ "พนักงานออฟฟิศ" ญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด และมันทำให้พวกเขาทำงานอย่างหนัก โดยแทบจะไม่มีการลาพักร้อนเพื่อชาร์จแบตให้กับร่างกาย จิตใจเลย

ตัวเลขการลาพักร้อนของพนักงานออฟฟิศญี่ปุ่นในปี 2561 ถูกใช้ไปเพียง 51.1% และหากเทียบกับประเทศในกลุ่มที่ถูกจัดว่าพัฒนาแล้ว ทั้งในฝั่งยุโรป หรืออเมริกาเหนือ ก็ทำให้เห็นความแตกต่างในทันที เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้ ชาวออฟฟิศต่างใช้วันหยุดกันเต็มที่ถึง 100%


เหตุผลจาก Work-Life Balance ที่ออกมาระบุถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวออฟฟิศของญี่ปุ่นไม่กล้าใช้วันหยุดลาพักร้อน เป็นเพราะ "ความเกรงใจ" ที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานต้องลำบากมากขึ้นจากภาระงานของตัวเอง ซึ่งเหตุผลนี้มีการรองรับมากถึง 73.3% เลยทีเดียว ขณะที่ชาวออฟฟิศอีก 47.5% มองว่าการ "ลาพักร้อน" จะทำให้ชีวิตต้องยุ่งยาก และสร้างความเหนื่่อยหน่ายให้กับตัวเอง แต่ที่น่าสนใจคือมีอีก 15.2% ที่มองว่าการลาพักร้อน หรือใช้วันหยุดประจำปี จะทำให้ "หัวหน้างาน" ไม่พอใจ และแน่นอนว่าเหตุผลนี้จะไปรองรับกับความคิดเห็นอีก 9.3% ที่บอกว่า หากลาพักร้อนก็จะสุ่มเสี่ยงกับการถูกเสนอให้เลื่อนตำแหน่ง หรือการโปรโมทรับตำแหน่งที่ดีกว่านั่นเอง


พฤติกรรม "คาโรชิ" หรือการ "บ้างาน" เป็นผลทำให้สุขภาพของชาวออฟฟิศของญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยง ดั่งที่เคยปรากฏเป็นข่าวว่ามีคนญี่ปุ่นต้องเสียชีวิตจากการโหมทำงานหนัก และทำให้สังคมญี่ปุ่นหันมาตระหนักกับปัญหาที่เกิดขึ้น กระทั่งเกิดการประกาศกฎหมายใหม่ออกมาเพื่อนำมา "บังคับ" ชาวออฟฟิศที่คลั่งงานโดยเฉพาะ

เพราะล่าสุด ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ออกกฎหมายที่กำหนดให้พนักงานออฟฟิศ จะต้องใช้วันหยุด วันพักร้อนประจำปีอย่างน้อยปีละ 10 วัน จึงจะได้รับค่าจ้างการทำงาน และหากใช้ไม่ถึง 10 วัน แน่นอนว่าจะถูกหักเงินเดือน

หากถอยออกมามองในภาพกว้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องแปลกดีที่ "ญี่ปุ่น" ใช้กฎหมายมาบังคับให้ "พนักงานออฟฟิศ" จะต้องหยุดงานเพื่อพักผ่อน โดยใช้เกณฑ์วัดและโทษทางเงินเดือนมาบังคับกัน ซึ่งแน่นอนว่ามันแตกต่างกับหลายๆ ประเทศในโลก หรือแม้ในประเทศไทยเองก็ตาม ที่ชาวออฟฟิศแน่นอนว่าจะต้อง "จัดเต็ม" กับวันหยุดประจำปีของตัวเองเพื่อพักผ่อนกาย และใจ


กระนั้นก็ตาม ไม่ใช่แค่เพียงการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น แต่ในภาคสังคมของญี่ปุ่นเองก็ตระหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และชักจะลุกลามมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้คน รวมถึงสุขภาพทางร่างกาย การรณรงค์ต่างๆ เพื่อให้ชาวออฟฟิศแดนปลาดิบเห็นคุณค่าของการ "ลาพักร้อน" หลายส่วนจึงเข้ามาช่วยเหลือเช่นกัน

อย่างเช่น บริษัท Ningen ที่เป็นบริษัทจัดออแกไนซ์ เข้าไปร่วมมือกับนักบวชท่านหนึ่งจากวัดไซเนนจิ ชื่อ “ทาคุโระอุ ซายามะ” ให้ช่วยมาถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับเหล่าบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศ เพื่อให้มองเห็นภาพความสำคัญของการใช้วันหยุดประจำปี

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
คนญี่ปุ่น “ตายสูง-เกิดต่ำ” ประชากรลดฮวบ บ้านร้างเกลื่อนประเทศ!