"ศักดิ์สยาม"ผุดโปรเจกยักษ์ สร้างอุโมงค์ทางลอด "ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา" ระบายรถจากปักษ์ใต้มุ่งหน้าตะวันออกไม่ต้องผ่านเมืองกรุง ร่วมวงญี่ปุ่นศึกษาความเหมาะสม

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 - นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร (สนข.) ได้ลงมือศึกษาความเหมาะสมโครงการ "ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดถนนนราธิวาส–สำโรง" ร่วมกับ กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (MLIT) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการก่อสร้างดังกล่าวขึ้น

ทั้งนี้ เป้าหมายของอุโมงค์ทางลอดถนนนราธิวาส–สำโรง จะเป็นระบบ "ทางด่วน" ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า เพื่อเป็นเส้นทางบายพาสที่จะช่วยให้รถที่สัญจรมาจากเส้นทางภาคใต้ มุ่งหน้าสู่ด้านตะวันออกได้โดยไม่จำเป็นจะต้องผ่านใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะช่วยให้ถนนสีลม ย่านสาทร บางรัก และถนนพระราม 4 ไม่ต้องเจอปัญหารถติดแน่นสะสมอีกต่อไป

• รฟม.เปิดวิ่ง รถไฟฟ้าสีน้ำเงินต่อขยาย จากบางโพ-จรัญฯ13 เต็มช่วงเวลา
• บอร์ดรถไฟชงซื้อรถใหม่ เป็นแบบ "พลังงานดีเซลรางไฟฟ้า" หวังลดปัญหาฝุ่น PM2.5
  
  

นายศักดิ์สยาม อธิบายเพิ่มเติมว่า ทางลอดดังกล่าวจะมีระยะทาง 8.7 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร โดยมีจุดเริ่มต้นคือ จะเชื่อมต่อจากทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) กับถนนนราธิวาสและเชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานครกับสี่แยกบางนา

อย่างไรก็ตาม ในแนวทางการศึกษาร่วมกันระหว่างทั้งสองหน่วยงานของไทยและญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 4 ส่วนดังนี้

1.การสำรวจกายภาพของถนนได้แก่การศึกษาภาพตัดขวางของถนนเส้นทางในแนวราบและแนวดิ่งและจุดเชื่อมต่อ
2.การประมาณการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
3.การดำเนินการตรวจสอบผลกระทบที่มีต่อการจราจรทั้งปริมาณจราจรปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
4.แนวทางการนำโครงการไปดำเนินการ เช่น การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP)

"ยังมีคำถามว่าถ้าสร้างจริงแล้ว จะมีผลกระทบต่อการจราจรอย่างไรบ้าง ซึ่งเราต้องมีวิธีการจัดการและให้มีการวางแนวทางแก้ไขเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางลอดจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะดูจากปริมาณการจราจรที่มาก" นายศักดิ์สยาม กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า MILT จะศึกษาในเรื่องเหมาะสมรูปแบบการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด "ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา" มูลค่าโครงการ รูปแบบการลงทุน และส่งผลทั้งหมดให้กับสนข. ภายในเดือนมีนาคม 2563 จากนั้นเมื่อได้เป็นข้อสรุปจะมีการส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาต่อไปตามขั้นตอน

ข่าวที่น่าสนใจ
จีนมั่นใจใกล้น็อก “ไวรัสโคโรนา” ลุ้นยา 4 สูตรเอาชนะเชื้อร้าย

"อนุทิน" เผยคนขับแท็กซี่ติดเชื้อโคโรนา รักษาหายแล้ว