“หารีกินไม่ได้เลยว่ะ” รีเจนซี่ แรร์ไอเทมสายเมา ที่วินาทีนี้ “หายากเหลือเกิน”

by ThaiQuote, 1 มีนาคม 2563

โดย...คเชนทร์ พลประดิษฐ์

จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ในปี 2560 มีจำนวนประชากรไทยอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ที่ดื่มสุราถึง 15.9 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ดื่มสม่ำเสมอ หรือที่เราเรียกว่า “คอเหล้า” ถึง 6.98 ล้านคน โดยกลุ่มอายุ 25-44 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราการดื่มมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มอายุ 20-24 ปี และกลุ่ม 45-59 ปี ตามลำดับ

แน่นอนว่า เหล่า “คอเหล้า” จำนวนไม่น้อยกว่าครึ่ง ต้องเคยสัมผัสลิ้มลองรสชาติ "บรั่นดีไทย" ซึ่งขณะนี้กำลังหายไปจากท้องตลาด จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของบรรดาผู้นิยมในความหอม ความหวาน

เพราะหลังจากเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา “รีเจนซี่” ซึ่งเรียกตัวเองว่า “บรั่นดีไทย” เพียงหนึ่งเดียว ได้หายไปจากตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศ จนผู้ที่ติดอกติดใจในรสชาติ ต่างขวนขวายและถวิลหา นำไปสู่การเป็น “แรร์ไอเทม” หรือสินค้าหายาก โดยมีสนนราคาในร้านที่ยังมีของจำหน่ายพุ่งจาก ราคา 500 ต่อกลม เป็น 650-780 บาท ถือว่าแพงกว่า เรด เลเบิ้ล ขนาด 700 มล.ที่มีราคาประมาณ 649 บาท

รี...หายไปไหน

หลายคนบอกว่า “รี..กำลังจะเจ๊ง” อีกกระแสหนึ่งบอกว่า “ผลิตไม่ทัน” เราก็ตามไปสืบค้นพร้อมกับได้รับคำตอบจากเอเยนต์สุรายี่ห้อหนึ่งจากต่างประเทศว่า “ของผลิตไม่ทัน” จนทำให้มีคนหัวใสใช้ช่องว่างนี้ผลิตของปลอมมาวางจำหน่ายในตลาด

และด้วยความหายากในปัจจุบัน ทำให้ยี่ปั๊วบางรายต้องยอมซื้อโปรขายพ่วง แบล็ค เลเบิ้ล ที่มีราคาประมาณ 1,200 บาทต่อกลม ถึง 3 กลมเพื่อแลกสิทธิ์ซื้อ “รีเจนซี่” ได้ 1 กลมเลยทีเดียว

ความจริงแล้ว การเป็น “แรร์ไอเทม” ของ “รีเจนซี่” มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก หากย้อนกลับไปเมื่อ 48 ปี ที่แล้ว ปี 2515 “รีเจนซี่” ได้ถือกำเนิดขึ้นโดย “ณรงค์ โชคชัยณรงค์” ซึ่งต้องการผลิต “บรั่นดีไทย” ตีตลาดวิสกี้และเหล้าฝรั่งที่มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ

ด้วยกระบวนการผลิตบรั่นดี ซึ่ง“ณรงค์” ได้ผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งมาคิดค้นสูตรให้ ต้องใช้เวลานาน เริ่มด้วยการเอาใจใส่ตั้งแต่ขั้นตอนของการคัดเลือกพันธุ์องุ่น การเก็บเกี่ยว การทำเหล้าองุ่น ซึ่งมีดีกรี 10-12 ดีกรี ก่อนไปเป็นกลั่นบรั่นดีทีละหยดจนได้บรั่นดีที่มีความแรงถึง 40 ดีกรี แล้วจึงบ่มในถังไม้โอ๊คอีก 2-3 ปี เพื่อให้ดีกรีลดลงแต่เพิ่มรสชาติที่นุ่มนวลมากขึ้น

 

 

นี่คือความเป็น “แรร์ไอเทม” ในยุคสมัยนั่น ซึ่งต่างจากสรุรากลั่นยี่ห้อดังซึ่งเป็นพี่ใหญ่อยู่ในท้องตลาด กระทั่งในปี 2530 ถือว่าเป็นปีทองของ “รีเจนซี่” ที่มียอดขายพุ่ง จนทำให้ปี 2531 รี...ก็ขาดตลาด เพราะขยายกำลังการผลิตไม่ทัน ยุคนั้นจากราคาขายปลีกปกติ 175 บาทต่อกลม โดยกลุ่มยี่ปั๊วได้ปั่นราคาให้ขึ้นไปถึง 230 บาทต่อกลม ก่อนที่ในปี 2533 จะขยับถึง 350 บาทต่อกลม

ดังนั้น ปัจจุบันจึงไม่น่าแปลกใจหาก “รีเจนซี่” จะหายไปจากท้องตลาด และเราเชื่อว่า ซักวัน “รี...จะกลับมา” ไม่ช้าไม่นานต่อจากนี้ มันทำให้เรานึกถึงกวีคำคมของ “โกวเล้ง” อดีตราชายุทธจักรนิยายจีน “ที่ข้าพเจ้าชมชอบมิใช่รสชาติของสุรา หากแต่เป็นบรรยากาศในการร่ำสุรา บรรยากาศเช่นนี้มีเพียงสุราจึงสร้างขึ้นได้” สุดท้ายต้องขอเตือนไว้ว่า “การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง”

**หมายเหตุ เราไม่ได้สนับสนุนให้เกิดการดื่มสุรา เพียงแต่ประเด็นที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ