มหาศาล! เผยตัวเลขงบฯ สู้ศึกโควิด-19 แต่ละประเทศ

by ThaiQuote, 7 มีนาคม 2563

เปิดตัวเลขงบประมาณแต่ละประเทศ ที่ใช้สู้ศึกไวรัสโควิด-19 จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ใครเปย์มากที่สุด เชื้อร้ายนี้ผลาญเงินทั้งโลกไปเท่าไหร่ มาดูกัน!!!

เมื่อโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กลายเป็นปัญหาของโลก ทุกประเทศต่างทุ่มงบประมาณอย่างไม่อั้นในการรับมือกับเชื้อร้ายนี้

ล่าสุดสำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้เห็นชอบมาตรการเยียวยา ทั้งผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว เอสเอ็มอี คนระดับกลาง ผู้มีรายได้น้อย ให้เห็นผลทันทีในช่วงระยะ 3-4 เดือนข้างหน้า โดยกระทรวงการคลังยอมทุบกระปุกกว่า 1 แสนล้านบาทเพื่อนำมาดำเนินงานในครั้งนี้

 

ด้านกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเกี่ยวในเรื่องนีโดยตรงก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้วันที่ 2 มี.ค.63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล เจ้ากระทรวง ได้เร่งดำเนินการผ่านสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขยาขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ให้ครอบคลุมทั้งการป้องกันโรค ตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลโควิด-19 พร้อมยื่นของบกลางปีจำนวน 3,500 ล้านบาทมาใช้เป็นค่ารักษาโรคนี้ในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2563 นี้อีกด้วย

 

ขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกต่างทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกันเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เริ่มจาก "สหรัฐอเมริกา" ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งกองทุนเพื่อสู้กับไวรัสระบาดครั้งนี้ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (7.9 หมื่นล้านบาท) นำมาพัฒนาวัคซีน ดูแลการกักกันโรค จัดหาอุปกรณ์การแพทย์เช่นหน้ากากอนามัย และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.63 สภาสหรัฐฯ อนุมัติงบประมาณ 260,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดหาอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อเร่งแจกจ่ายให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

“ญี่ปุ่น” ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลประทบมากเช่นกัน ยอดผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเมื่อวันที่ 1 มี.ค.63 นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติจัดสรรงบประมาณฉุกเฉิน 270,000 ล้านเยน (79,000 ล้านบาท ) จากคลังสำรอง เพื่อช่วยเหลือทุกภาคส่วนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19"

 

ส่วน “เกาหลีใต้” ประเทศที่มาแรงแซงทางโค้ง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ หลังพบว่ายอดยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงจนขึ้นมาเป็นอันดับสองเป็นรองแค่เพียงจีนซึ่งเป็นต้นทางของโรค โดย รัฐบาลระดมเงินกว่า 30 ล้านล้านวอน (ราว 8 หมื่นล้านบาท) เพื่อรับมือกับโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

มาที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง "สิงคโปร์" ก็ได้ควักเงินออกมาแก้ปัญหาโควิด-19 เช่นกัน โดยการตั้งงบประมาณสนับสนุนพิเศษ 1,700 ล้านบาท เพื่อมาช่วยแท็กซี่ พนักงานขับรถ และกลุ่มคนอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อในแต่ละวัน

 

เขตบริหารพิเศษ "ฮ่องกง" เป็นอีกหนึ่งที่ต้องเผชิญกับไวรัสโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องเกี่ยวข้องกับจีนโดยตรง แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุด ได้ยื่นต่อสภานิติบัญญัติให้จัดสรรเงินราว 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.12 แสนล้านบาท) สำหรับใช้ในการรับมือกับวิกฤติในครั้งนี้

 

และประเทศสุดท้ายที่จะขอหยิบยกมาให้ได้รับรู้คือ “จีน” ต้นกำเนิดของวิกฤติครั้งนี้ ซึ่งมีรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า รมช.กระทรวงการคลังของจีนได้เปิดเผยว่า หน่วยงานทุกระดับของรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 1.1 แสนล้านหยวน (ราว 5 แสนล้านบาท) เพื่อป้องกันและควบคุมไวรัสโควิด-19 ซึ่งงบดังกล่าวถูกนำไปใช้แล้วประมาณ 7.14 หมื่นล้านหยวน (ราว 3.25 แสนล้านบาท) คงเหลืออีก 3.95 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เมื่อนับสิ้นสุดถึงวันที่ 4 มี.ค.63

 

ทั้งนี้ สำหรับมณฑลหูเป่ย เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่วิกฤติที่สุด ได้รับการจัดสรรงบประมาณลงไป 6.2 พันล้านหยวน (ราว 2.81 หมื่นล้านบาท)

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

 ก่อนด่าขอให้วางใจเป็นกลาง “ปมคลังทุ่มแสนล้าน” แก้วิกฤตโควิด-19

แพทย์จีนเผยการรักษาโควิด-19 ดีวันดีคืน คาดอู่ฮั่นไร้ผู้ป่วยรายใหม่ในสิ้นเดือน มี.ค.