เรื่องร้อนประเด็นท่องเที่ยว!! มีความคืบหน้าของโปรเจกต์ใหญ่ของรัฐบาล ที่ชื่อว่า "Travel Bubble" หรือการ "จับคู่ระหว่างประเทศ" มาเล่าให้ฟัง

ปูพรมกันเล็กน้อยว่า "Travel Bubble" คืออะไร และข่าวการเมืองก็เริ่มพุ่งมาเรื่องนี้แล้ว คำตอบที่เข้าใจอย่างง่ายๆ คือ โครงการนี้เป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการเดินทางในเชิงการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยผลลัพธ์ก็คือการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ร่วมมือเพื่อให้คนในแต่ละประเทศได้เดินทางท่องเที่ยว

และมาถึงวันนี้ เราเริ่มเห็นความชัดเจนว่ารัฐบาลเอาจริง และใส่เกียร์เดินหน้าไปแล้ว

ระหว่างนี้ สิ่งที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าเกี่ยวกับ Travel Bubble คือการแพ็กวงประชุมพูดคุยระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการต่างประเทศ และแน่นอนว่าเจ้าภาพใหญ่คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าข้อสรุปควรออกมารูปแบบไหน ทั้งแนวทางไปคุยกับต่างประเทศที่เป็นประะเทศกลุ่มเป้าหมาย มาตรการเฝ้าระวังโรคระบาด เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดถูกสังเคราะห์และนำไปขึ้นโต๊ะในวงประชุมของศบค.ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้

แต่สิ่งที่คนกำลังอยากรู้ และผู้ประกอบการก็อยากเห็น กับตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะปล่อยเข้ามาเที่ยวในบ้านเรา มันจะมากแค่ไหน สัดส่วนเป็นเท่าไหร่ เพราะเชื่อแน่ว่ารัฐบาล "เอานะ" กับโครงการ Travel Bubble ตัวนี้อย่างจริงจัง

คำตอบคือ "วันละ 1,000 คน" จากคำยืนยันของ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และจะไม่มีการ "กักตัว" 14 วันตามรูปแบบเดิม เพราะจะต้องเชื่อมั่นและมีความมั่นใจมาจากประเทศต้นทางที่มีระบบคัดกรองป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 เหมือนกัน

เพื่อให้เข้าใจตรงกัน หากโปรเจกต์ Travel Bubble ฉลุยรัฐบาลไฟเขียว และทุกอย่างลุล่วง เราก็จะเห็นอาตี๋ อาหมวย และต่างชาติหัวทองหัวแดง เดินทางเข้ามาประเทศไทย และออกไปท่องเที่ยวได้สะดวกตามต้องการ วันละไม่เกิน 1,000 คน

"รูปแบบก็ต้องมีการตรวจความปลอดภัยของโรคจากประเทศต้นทาง และแน่นอนว่ามาถึงเมืองไทยก็ต้องตรวจอีกรอบ แต่อาจจะกำหนดพื้นที่ห้ามไปสำหรับนักท่องเที่ยวบ้าง รวมถึงใช้แอปพลิเคชันในการติดตามตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทั้่งหมด สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย จะต้องมาจากประเทศที่มีการรับมือโควิด-19 ได้ในระดับที่ดี เท่าๆ กัน" น.ส.ไตรศุลี สะท้อนภาพความคืบหน้าล่าสุดของ Travel Bubble

ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการฟื้นคืนเศรษฐกิจของประเทศจากพิษโควิด-19 โดยใช้ "การท่องเที่ยว" ของประเทศไทยที่เคยเป็นพระเอกเสมอมาในการเรียกเม็ดเงินจากทั่วโลกจำนวนมหาศาลแต่ละปี

กระนั้นก็มีเสียงสะท้อนจากคนในวงการแพทย์ออกมาถึง Travel Bubble จาก "รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่าขอคัดค้าน Travel Bubble ด้วยความรัก

"ขอเรียกร้องต่อทาง ศบค. โปรดทบทวนการอนุมัติในหลักการตามที่มีการแพร่ข่าวทางสื่อมวลชนวันก่อน กราบเรียนเสนอนายกรัฐมนตรี ได้โปรดชะลอ และลงมาบัญชาการด้วยตนเอง

ขอให้งดการมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวกับสุขภาพ ท่องเที่ยว และเดินทางดำเนินการเรื่องนี้ เพราะคุมโดยวงอำนาจการเมืองวงเดียว และอาจมีการตัดสินใจที่ส่งผลต่อประชาชนโดยมิได้มีการถ่วงดุลอำนาจครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งและส่งผลต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของทุกคน จึงจำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยกลไกกลาง น่าจะทำให้มีความรอบคอบ มั่นใจต่อทุกคน ทั้งเรื่องวิธีการ เงื่อนเวลา และกลไกติดตามกำกับในระยะยาว

ด้วยรักต่อทุกคน"

นั่นคือความคืบหน้าที่เราเห็นภาพล่าสุด และต้องมาดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะเห็นชอบอย่างไรต่อที่ประชุมศบค.ที่จะถึงในอีก 2 วันข้างหน้า หากทุกอย่างเดินหน้าก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นลำดับ แต่เชื่อได้ว่า หาก "ระบบ" ควบคุม มีความ "ปลอดภัยขั้นสูง" ระหว่างกัน ก็คงไม่มีปัญหาหากจะให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่ามันจะกระตุ้นเงินสะพัดระดับท้องถิ่น แต่หาก "ระบบ" ไม่ดีหรือไม่เพียงพอ เราก็ได้แต่ภาวนา

ข่าวที่น่าสนใจ

“อนุทิน” ชงไอเดีย ”จับคู่ประเทศเดินทาง” ส่ง ศบค.เคาะ ย้ำเห็นควรเปิด “สนามบินภูเก็ต”

“ธพว.”จับมือ”สรรพากร – IEC” ช่วยรีบูตเอสเอ็มอีท่องเที่ยว ติวออนไลน์-ให้สินเชื่อดอกถูก