ทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ในหลวง ร.10 พระมหากรุณาธิคุณ พัฒนาเยาวชนไทย

by ThaiQuote, 27 กรกฎาคม 2563

นักเรียนทุน ม.ท.ศ. พระราชกรณียกิจ ในหลวง ร.10 ตามพระราชปณิธาน มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทย

โครงการทุนการศึกษาฯ มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ถือเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านการส่งเสริมการศึกษา ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2552 ทรงให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทยที่มีฐานะยากจนลำบาก แต่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคง ในขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี 2553 มาจวบจนถึงปัจจุบัน รวม 11 รุ่น จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม 1,764 ราย รวมเงินทุนพระราชทานที่จัดสรรไปแล้ว จำนวน 461.74 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักเรียนทุนพระราชทานต่างน้อมนำ ยึดมั่น ปฏิบัติตนตามแนวพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานว่า“เรียนดี ความรู้ดี การงานดี ชีวิตสดใส ทำประโยชน์ให้กับ ประเทศชาติ” มาเป็นแนวทางในการดำรงตนด้วย

การเป็นนักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ถือเป็นความภูมิใจของนักเรียนด้อยโอกาส ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับการศึกษาที่ดี สร้างโอกาสที่ดีให้กับเยาวชนไทย ซึ่งเมื่อจบการศึกษาแล้ว พวกเขาหวังว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป

ดังที่ “น.ส.สุภัทชา รอดเทศ” หรือ “กระแต” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร.ร.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. รุ่นที่ 11 ได้สะท้อนให้เรารำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้


“ครอบครัวของหนู พ่อแม่มีอาชีพเกษตรกร รายได้ส่วนใหญ่ซึ่งมจากการปลูกผัก พืชผสมผสาน และรับจ้าง โดยพ่อมีโรคประจำตัวคือความดัน และโรคซึมเศร้า ไม่สามารถทำงานหนักได้ การเป็นนักเรียนทุนพระราชทาน จึงช่วยแบ่งเบาภาระภายในครอบครัวได้” สุภัทชา กล่าว

นักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ.จะต้องผ่านการคัดเลือกจากโรงเรียน ในหลักเกณฑ์เบื้องต้นที่จะต้อง “เรียนดี ตั้งใจ ขาดแคลน ความประพฤติดี มีความมุ่งมั่น” ต่อจากนั้นจะมีการคัดเลือกในระดับจังหวัด ซึ่งจ.ราชบุรี มีนักเรียนได้รับทุนพระราชทานจำนวน 2 คน ก่อนที่จะมีการคัดกรองในรอบสุดท้ายผ่านการฝึกระเบียบวินัย ความอดทนต่าง ๆ

โดยนักเรียนทุนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับพระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ และรับทุนจากพระหัตถ์ในหลวง ร.10 สิ่งนี้จึงเหมือนเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต ซึ่ง “กระแต” บอกกับเราว่า มีความรู้สึกอิ่มเอมใจ เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวทุกคน

นอกจากค่าเล่าเรียนตามจริงของแต่ละสาขาวิชาที่เรียนแล้ว นักเรียนทุน ม.ท.ศ. จะได้รับ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายประจำวัน และค่าหอพักหรืออุปกรณ์การเรียน เพื่อช่วยให้นักเรียนทุนของพระองค์ท่าน ในหลวง ร.10 ไร้ซึ่งความวิตกกังวล และสามารถมุ่งมั่นเพื่อที่จะเรียนในสาขาที่ตนเองตั้งใจได้อย่างเต็มที่


รายได้ของครอบครัว “กระแต” นอกจากพ่อกับแม่ซึ่งเป็นเสาหลักแล้ว เธอยังทำงานหารายได้เสริมจากการ “เต๊าะผัก” หรือการคัดผักใบที่เสียออก แล้วมัดเป็นกำ เพื่อส่งตลาดต่อ ซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอนในแต่ละวัน นอกจากนี้ พ่อแม่กระแต จะต้องส่งไปรับ-ส่ง น้อง ระหว่างบ้าน ใน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กับโรงเรียน เป็นระยะทางกว่า 14 กม.

“หากหนูไม่ได้ทุนพระราชทาน ชีวิตครอบครัว พ่อแม่จะต้องลำบากมาก จากรายได้ที่ไม่แน่นอน ซึ่งมีแค่พอกินพอใช้ในครอบครัว หากจะต้องส่งหนูเรียนตามที่ท่านหวังไว้ว่าจะให้จบปริญญา พ่อกับแม่ก็จะต้องเหนื่อยและลำบากมากกว่าที่เป็นอยู่” กระแต กล่าวถึงคุณค่าของทุนพระราชทาน

“กระแต” มีความฝันว่า ทุนพระราชทานดังกล่าว จะช่วยทำให้เธอได้ก้าวสู่ชีวิตการทำงานดังที่ตนเองใฝ่ฝันไว้ โดยมีอาชีพเป็น นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร เพราะซึมซับมาจากความที่เป็นลูกเกษตรกร ชุมชนที่อาศัยอยู่ ปัญหาที่ทำให้เธออยากช่วยเหลือให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“หนูอยากเป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร เพื่อกลับมาเป็นเกษตรตำบล ที่ให้ความรู้ความเข้าใจเกษตรกรในท้องถิ่นได้ หนูมีความคิดว่าส่วนใหญ่คนที่ประกอบการอาชีพเกษตรกร ยังมีความรู้ไม่มากพอ อย่างเช่นภายในชุมชนที่อยู่อาศัย หนูอยากเห็นภาพที่เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ยึดหลักการประกอบอาชีพแบบเกษตรพอเพียง เพิ่มรายได้ ลดการใช้สารเคมี ที่ทำให้ลดปัญหาของดินเสื่อมโทรม นอกจากนี้ยังทำให้มีผลเสียต่อผู้บริโภคด้วย” กระแส บอกเล่าความฝันในอนาคตให้เราฟัง

สิ่งที่กระแสเลือกอาจไม่เหมือนเด็กคนอื่น ที่มีความฝันอยากเป็น หมอ ครู ทหาร นักวิทยาศาสตร์ ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ความฝันจะเป็นจริงได้ด้วยแรงมุ่งมั่น


กระแต บอกกับเราว่า อยากให้หาเป้าหมายของตนเองให้ชัดเจน เมื่อมีเป้าหมายแล้วก็จำเป็นที่จะต้องมีความมั่งมั่นและตั้งใจที่จะทำให้ได้ ที่สำคัญคือตระหนักรู้ตนเองอยู่เสมอว่าตัวเองคือนักเรียนทุน การจะประกอบอาชีพอะไร ต้องเป็นอาชีพที่สุจริต สามารถเป็นกำลังของชาติ นำพาประเทศให้เจริญก้าวไกล

“หนูจะตั้งใจเรียนให้จบปริญญา จะทำทุกอย่างเท่าที่ตัวเองจะทำได้ พร้อมกับการน้อมนำปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน หนูมีความซาบซึ้ง และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดไม่ได้ ทุนนี้เป็นทุนที่ดีที่สุด และสูงสุดของเด็กคนหนึ่ง เป็นทุนที่น้อยคนจะได้รับ” กระแต กล่าวทิ้งท้าย

 

เรื่องที่น่าสนใจ

“ไร่สุขพ่วง” เรียนรู้หน้าที่ตนเอง จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ในหลวงโปรดเกล้าฯ ประธานองคมนตรี บำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเพลเนื่องในวันเฉลิมฯ