ส่องปัจจัยสำคัญ! ช่วย “พนักงานขับรถโดยสาร” รอดวิกฤติโควิด-19

by ThaiQuote, 3 สิงหาคม 2563

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ สำนักงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม (RDI) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เผยผลการศึกษา “โครงสร้างรายได้ที่เป็นธรรม” ช่วยเหลือพี่น้องพนักงานขับรถโดยสารประจำทางในช่วงวิกฤติโควิด-19

ดร.ภูมิพัฒณ์ พงศ์พฤฒิกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 พี่น้องพนักงานขับรถโดยสารประจำทางได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์และปิดเมือง ทำให้ปริมาณผู้โดยสารลดลงกว่าร้อยละ 60-80 ส่งผลให้พนักงานขับรถโดยสารประจำทาง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ขสมก. รถร่วมบริการ รถตู้ และรถทัวร์ ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมกับสำนักงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม (RDI) ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ จึงได้ทำการศึกษา “ความพึงพอใจของพนักงานขับรถโดยสารประจำทางที่มีต่อค่าตอบแทนทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน” เพื่อสร้างเป็นโมเดลต้นแบบการกำหนดค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ช่วยบรรเทาผลกระทบวิกฤติโควิด-19 เพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน รักษาอัตราการคงอยู่ในอาชีพ เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และเพิ่มความปลดภัยในชีวิตและทรัพย์สินผู้โดยสาร


ผลการศึกษาพบปัจจัยกำหนดโครงสร้างที่เป็นธรรมประกอบด้วย 4 ปัจจัยที่จำเป็นและขาดไม่ได้ ได้แก่ ปัจจัยหลัก ปัจจัยร่วม ปัจจัยการสร้างแรงจูงใจ และการเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพการทำงาน

1.ปัจจัยหลัก เป็นปัจจัยทั่วไปของพนักงานขับรถและปัจจัยองค์กร เช่น ประสบการณ์ ขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผู้โดยสาร ความเชี่ยวชาญเส้นทาง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดรายได้ของพนักงาน ผนวกกับปัจจัยองค์กรที่จะต้องกำหนดให้สอดคล้องกัน เช่น การกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่เพียงพอและเป็นธรรม การให้ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นตัวเงินหรือสวัสดิการ เช่น ค่าชดเชยวันหยุด ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมบุตร เป็นต้น

2.ปัจจัยร่วม ผลการศึกษาชี้ว่าปัจจัยร่วมด้วยหรือปัจจัยส่งเสริมอื่น ๆ มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น เงินรางวัลเมื่อพนักงานขับรถได้ตามเป้าหมาย ค่าตอบแทนเหมาะสมกับงานทีได้รับมอบหมาย การปฏิบัติกับผู้โดยสารด้วยความเป็นมิตร การได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง การได้รับการยกย่อง ชื่นชมจากผู้โดยสาร จำนวนวันหยุดที่เพียงพอ และเงินรางวัลและสวัดิการเพียงพอและครอบคุมถึงครอบครัว เป็นต้น

3.การสร้างแรงจูงใจ (Inspirational Factor) เป็นอีกปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้พนักงานขับรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน โดยการสร้างแรงบันดาลใจจะมีวิธีการดังนี้คือ

3.1 มีความพยายามในการพัฒนาวิธีการทำงานของตนเอง

3.2 เป็นโอกาสในการพัฒนาความรู้ความสามารถ

3.3ได้รับความไว้วางใจจากองค์กร

3.4 ได้รับการยอมรับจากผู้โดยสาร

4.การเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพการทำงาน (Skill and Productivity Factor) ผลการศึกษาพบว่าการเปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาทักษะในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญและทำให้พนักงานขับรถมีความพึงพอใจและภาคภูมิใจในอาชีพของตนเอง อีกทั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาสร้างโครงสร้างรายได้ของผู้ขับรถโดยสาร ประกอบด้วย 8 ทักษะที่สำคัญ ดังนี้

1) มีความรู้ความสามารถในการขับรถ
2) การนำความรู้ไปใช้จริง
3) ใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4) มีความสามารถในการแก้ไขเฉพาะหน้า
5) มีความรับผิดชอบ
6) มีความอิสระในการแก้ไขปัญหา
7) มีความชำนาญในเส้นทาง
8) มีเครือข่ายที่ดีในการทำงาน

ดร.ภูมิพัฒณ์ กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อองค์กรกำหนดโครงสร้างค่าตอบแทนที่เป็นธรรมมีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลที่เกิดกับองค์กรเอง คือจะทำให้องค์กรประหยัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นเพราะพนักงานต่างร่วมด้วยช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยรักษาอัตราการคงอยู่ในการทำงาน และยังช่วยให้พนักงานเกิดความภาคภูมิใจและรักในองค์กร

และส่วนประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อพนักงานขับรถนั้นก็มีมากมาย เช่น ได้รับรายได้ที่เพียงพอและเป็นธรรม มีสวัสดิการครอบคลุมถึงครอบครัว และมีโอกาสในการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นในอาชีพ

“ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อพนักงานมีความพึงพอใจและรักในอาชีพของตนเอง จะคำนึงถึงผู้โดยสารมากขึ้น ความปลอดภัยในการขับขี่ก็มีมากขึ้น ทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนนได้อีกด้วย” ดร.ภูมิพัฒณ์ กล่าวทิ้งท้าย

 



ข่าวที่น่าสนใจ

ทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ในหลวง ร.10 พระมหากรุณาธิคุณ พัฒนาเยาวชนไทย