ก้าวแรกของ ‘ไบเดน’ เขาต้องทำอะไรบ้าง ก่อนจะนั่งเก้าอี้ที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก

by ThaiQuote, 10 พฤศจิกายน 2563

ThaiQuote Team


ก้าวต่อไปของโจไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังถูกคนอเมริกัน และทั้งโลกจับตา เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาไบเดน เอาชนะเจ้าของเก้าอี้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกผู้ที่เคยนั่งอยู่คือ โดนัลด์ทรัมป์ แต่ธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ที่ได้รับเลือกและมอบหมายให้ทำหน้าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่เคยคุ้นชินกัน อาจจะผิดแผกไปจากเดิม เนื่องด้วยว่าขณะนี้แผ่นดินอเมริกายังคงเต็มไปด้วยไวรัสโควิด-19 ผลพวงที่เป็นขั้นตอนปฏิบัติที่เคยมีมา อาจเปลี่ยนแปลงในยุคของไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ในวัย 78 ปี

แม้ว่าขณะนี้ ทรัมป์ยังไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ของเขา และตำแหน่งพ่วงท้ายชื่อของเขาก็ยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ เพียงแต่ว่าระยะเวลาของมันอาจจะไม่นานอีกต่อไป หรืออย่างช้าที่สุด ทรัมป์ก็ต้องลุกจากเก้าอี้ไปก่อนสิ้นปี 2563 นี้แน่นอน

แม้ว่าจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเต็มปากเต็มคำในชั่วโมงนี้ แต่ไบเดน และแฮร์ริส (สุภาพสตรีผิวสีคนแรกของประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่ได้ตำแหน่งรองประธานาธบดี) ก็เริ่มเตรียมวางแผนเดินหน้าทำงาน โดยเฉพาะการพุ่งไปที่ประเด็นการจัดการไวรัสโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

แต่ก่อนที่ไบเดน และแฮร์ริส จะได้เริ่มงานอย่างเป็นทางการในปี 2564 พวกเขาจะต้องเริ่มต้นอาชีพใหม่ด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ศาลาว่าการสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และจากนี้คือสิ่งที่ทั้งโลกจะต้องรู้ ว่าบันไดแต่ละขั้น ก้าวย่างแต่ละก้าวก่อนจะไปนั่งเก้าอี้มหาอำนาจของโลกสำหรับไบเดน มีสิ่งใดบ้าง


---- เปิดตัว "อย่างเป็นทางการ" วันไหน? -----

ปกติแล้วการเปิดตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ จะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคมเป็นประจำทุกๆ 4 ปี ที่ศาลาว่าการสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ดีซี โดยประธานาบดีสหรัฐฯ จะต้องทำพิธีสาบานตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง และหลังจากที่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งแล้ว เขาจะต้องทำตามธรรมเนียมคือเดินเข้าทำเนียบขาว และเป็นพื้นที่ที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างน้อย 4 ปี โดยพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามปกติจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ และทั่วโลก รวมไปถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกแขนง ทั้ง Facebook Live, Twitter และ YouTube


---- อเมริกันชน อยากดูพิธีสาบานตน จะต้องมี 'ตั๋ว' ----

การเข้าไปร่วมบรรยากาศพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดให้คนทั่วไปได้ร่วมงานด้วยฟรี แต่ทั้งนี้จะต้องมี "ตั๋ว" ซึ่งตั๋วจะแสดงถึงการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ โดยคนอเมริกันสามารถไปขอตั๋วได้จากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในเขตของพวกเขา ที่จะให้ตั๋ว 1 ใบต่อ 1 ครอบครัว นอกจากนี้ หากพลาดการได้รับตั๋ว ยังมีตัวเลือกในการรับชมพิธีนอกจากบ้านพักอาศัยของตัวเอง คือตามห้างสรรพสินค้าจะมีการตั้งจอทีวีขนาดยักษ์เพื่อรองรับประชาชนที่อยากร่วมสัมผัสบรรยากาศกับคนอื่นๆ ในสังคม


---- วันพิธีสาบานตนของไบเดน ทรัมป์จะโผล่มาตามธรรมเนียมหรือเปล่า? -----

ธรรมเนียมปฏิบัติ อดีตประธานาธิบดีจะเข้าร่วมพิธีเปิดตัวประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งและประธานาธิบดีจากวาระก่อนหน้าด้วย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าขณะนี้ทรัมป์ ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เขายังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่มีการยืนยันว่าทรัมป์จะเข้าร่วมพิธีเปิดตัวไบเดนตามธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมานานหรือไม่


---- ศิลปินระดับโลก ร่วมงานเปิดตัวประธานาธิบดี ----

ปกติแล้วพิธีเปิดตัวและสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีนักร้อง นักแสดงระดับ A-list เข้าร่วมพิธีด้วย ทั้งการร้องเพลงชาติ การแสดงเล็กๆ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่นในปี 2552 ในพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรกของบารัค โอบามา ได้ Aretha Franklin (อารีทา แฟรงคลิน) นักร้องชาวอเมริกันสไตล์โซล อาร์แอนด์บีเข้าร่วมพิธี ส่วนการเปิดตัวครั้งที่ 2 หลังจากชนะการเลือกตั้งอีกครั้งของโอบามา เขาเชิญ Beyoncé (บียอนเซ่) และ Kelly Clarkson (เคลลี่ คาร์กสัน) สองศิลปินสาวชาวอเมริกันร่วมพิธี

ขณะที่ทรัมป์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เขาเลือกเอา Jackie Evancho (แจ็คกี้ เอวานโช) ศิลปินหน้าใหม่ในขณะนั้นที่เพิ่งชนะรายการ America's Got Talent นอกจากกลุ่มศิลปิน ดารานักแสดงแล้ว ในพิธีเปิดตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีผู้นำทางศาสนาทุกศาสนา กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีด้วยเช่นกัน


---- ไบเดน จะทำอะไรก่อนเมื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ----

ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเอาไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของเขาเองคือการ จัดการกับโควิด-19 โดยไบเดนจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาโควิด-19 เพื่อให้ช่วยกำหนดแนวทางการรับมือให้กับทีมบริหารประเทศ ที่จะถูกจัดตั้งขึ้นมาเช่นกัน คณะกรรมการที่ปรึกษาโควิด-19 จะประกอบไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข 13 คน นำโดยดร. เดวิดเคสเลอร์อดีตกรรมการอาหารและยา ดร. วิเวกเมอร์ตี้อดีตศัลยแพทย์ทั่วไปของสหรัฐฯ และดร. มาร์เซลลานูเนซ - สมิธ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล

นอกจากเรื่องโควิด-19 ไบเดน เปิดเผยแผนการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าสหรัฐฯ จะบรรลุเศรษฐกิจพลังงานสะอาด 100% และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2050 หรืออีกใน 30 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ไบเดนยังให้สัญญาว่าจะให้สหรัฐฯ กลับเข้าสู่ข้อตกลงสภาพภูมิอากาศของปารีส ที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์พาสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลง

 

ข่าวที่น่าสนใจ