ศึกษาตำนาน “วาเลนไทน์” และความรู้ของเด็กไทยเรื่อง “ชิงสุกก่อนห่าม”

by ThaiQuote, 12 กุมภาพันธ์ 2564

รู้จัก "นักบุญวาเลนตินุส" ผู้เป็นรากเหง้าของ "วันวาเลนไทน์" และความรู้ของวัยรุ่นไทยในเรื่องความรัก และการปล่อยตัวปล่อยใจ-ชิงสุกก่อนห่ามใน 14 ก.พ.

ประวัติความเป็นมาของ "14 กุมภา" ที่โลกทั้งใบเรียกขานวันนี้ว่า "วันวาเลนไทน์" พบว่ามีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแห่งโรม อิตาลี และคำว่าวาเลนไทน์นี้เอง ก็มาจากชื่อของ "นักบุญ" ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ชื่อว่า "นักบุญวาเลนตินุส" หรือเซนต์วาเลนไทน์อันเลื่องชื่อมานานเกือบ 1,700 ปี


ตามตำนานเล่าว่า "นักบุญวาเลนตินุส" หรือเซนต์วาเลนไทน์ เกิดเมื่อราวปีพ.ศ.769 และเสียชีวิตจากการ "ถูกประหาร" เมื่อปี พ.ศ.816 อ่านถึงตรงนี้ อาจทำให้เรามองเหมือนกับการ "ย้อนแย้ง" เพราะวันแห่งความรัก น่าจะไม่ควรมีจุดเริ่มต้นจาก "ความตาย" ทว่าในบรรทัดถัดไป จะมีคำอธิบาย

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.816 คือวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหารด้วยการ "ตัดคอ" จากคำสั่งของ "พระเจ้าคลอดิอุส ที่ 2" เพราะมีความผิดในฐานะฝ่าฝืนคำสั่งในการห้ามคนในเมืองที่พระองค์ปกครองในยุคสมัยนั้น "แต่งงาน" กัน ซึ่งเซนต์วาเลนไทน์ หรือนักบุญวาเลนตินุส ก็เป็นบาทหลวงที่แอบทำพิธีแต่งงานให้กับหนุ่มสาวในเมืองฝืนกับคำสั่งของพระราชา

ที่มาของคำสั่งห้ามแต่งงาน เพราะพระเจ้าคลอดิอุส ที่ 2 มีเหตุผลในการต้องการตัวผู้ชายในเมือง เพื่อให้เตรียมพร้อมกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น กระนั้นก็ตาม ความรักย่อมชนะทุกสิ่ง และเพราะเหตุผลนี้เองที่ทำให้เซนต์วาเลนไทน์ จะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

เซนต์วาเลนไทน์ "แอบ" ทำพิธีแต่งงานให้กับหนุ่มสาวอย่างลับๆ เพราะในฐานะที่เขาเองก็เป็นบาทหลวงที่ถูกให้ทำพิธีสำคัญตามหลักศาสนาคริสต์ได้ ภายในงานแต่งงานลับในครั้งนั้น จะมีเพียง 3 ชีวิตในงาน คือ คู่บ่าว-สาว และบาทหลวงวาเลนไทน์ที่จะเป็นทั้งคนทำพิธี สักขีพยาน และรับรู้ถึงความปลื้มปิติไปกับพิธี

ท้ายสุดเรื่องแตก เพราะทหารของพระเจ้าคลอดิอุสก็ได้มาเห็นพิธีพอดี แล้วเรื่องราวก็ไปถึงพระเจ้าคลอดิอุสเซนต์วาเลนไทน์จึงถูกจำคุกและถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส

ความดีและความกล้าหาญของเซนต์วาเลนไทน์ ถูกสนองตอบหลังถูกจับ เพราะคนที่ถูกทำพิธีแต่งงานโดยเซนต์วาเลนไทน์มักแอบมาเยี่ยมเซนต์วาเลนไทน์ที่คุกอยู่เสมอ

ต่อมาผู้คุมคุกของเซนต์วาเลนไทน์ชื่อแอสทีเรียส เขามีลูกสาวที่ตาบอด จึงขอให้เซนต์วาเลนไทน์ช่วยรักษา แล้วลูกสาวของแอสทีเรียสก็กลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม ลูกสาวของแอสทีเรียสจึงมาเยี่ยมเซนต์วาเลนไทน์ที่คุกอยู่เสมอเช่นเดียวกัน จนกระทั่งถึงวันประหารชีวิตเซนต์วาเลนไทน์ ก่อนเขาเสียชีวิตเขาก็เขียนจดหมายถึงลูกสาวของแอสทีเรียสและลงท้ายด้วยคำว่า "From your Valentine"แล้วเซนต์วาเลนไทน์ก็ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 816 และเสียชีวิตในวัย 47 ปี


หลังเซนต์วาเลนไทน์เสียชีวิต ก็มีการบรรจุกะโหลกของเซนต์วาเลนไทน์ไว้ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ต่อมาพระสันตะปาปาเกลาซิอุสได้แต่งตั้งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิตเป็นวันสำคัญ คือวันวาเลนไทน์ จนเป็นที่มาของวันแห่งความรักนั่นเอง


จริงหรือ? วาเลนไทน์ วันนี้เธอต้องยอม

มองมาที่สังคมไทย มุมมองในวันแห่งความรักแต่ละคนมีความหลากหลายออกไป เด็กวัยประถมอาจจะเผยความรู้สึก สภาพความรักผ่านสติกเกอร์แปะในเสื้อผ้าของแต่ละคนที่สวมใส่ เขียนโน้ตสั้นๆ ส่งให้กัน โตขึ้นมาหน่อยเข้าสู่วัยรุ่นอาจจะแทนความรู้สึกด้วยดอกไม้ การหามุมสารภาพรักกัน วัยทำงานพอหารายได้ได้บ้างแล้ว อาจจะใช้วันนี้พาคู่รักออกท่องเที่ยว กินอาหารดีๆ หรือจดทะเบียนสมรสกัน

วกกลับมาหาวัยรุ่น มีไม่น้อยในโลกความเป็นจริงอันเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับว่า 14 กุมภาพันธ์ อาจไปวันที่เลือกสัมผัสทางกายระหว่างกัน

เพราะนิยามของความรักสำหรับบางคน อาจมีคำตอบคือการเป็นของกันและกัน ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนก็ไม่อาจเข้ามายุ่งเกี่ยวระหว่างคนทั้งสองได้ วันวาเลนไทน์ในบ้านเราจึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเหตุผล เป็นข้ออ้างอยู่หลายครั้งที่หนุ่มสาวต้องการแสดงความรักผ่านการมีเพศสัมพันธ์


แต่โลกหมุนทุกวินาที ความคิดความเชื่อนี้อาจจะเปลี่ยนไป เพราะเพียงแค่วันวาเลนไทน์ อาจไม่ใช่เหตุผลที่หลายคนยอมเสียตัวให้กับคู่ครอง จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตฉายภาพชัดเจนว่า วัยรุ่นไทยไม่ได้สนใจวันแห่งความรักนี้สักเท่าไหร่ เพราะหากเขาจะ “ขึ้นเตียง” พวกเขาก็ทำกันได้ทุกวันตามแต่โอกาส หรืออารมณ์จะอำนวย

8 ใน 10 คน จากกลุ่มตัวอย่างกว่าหนึ่งพันชีวิต สะท้อนว่า วันวาเลนไทน์ไม่ใช่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันครั้งแรก แต่ที่น่าสนใจคือ กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้มีมุมมองที่ต่างออกไปกับวันวาเลนไทน์ เพราะมันควรเป็นวันที่ผู้ปกครองควรจะต้อง “ใส่ใจ” ลูกหลานอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้นกว่าเดิมต่างหาก

รักสนุกแต่ก็ต้องปลอดภัย วัยรุ่นไทยเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นต่อการป้องกันปัญหาที่จะตามมาหลังการมีเพศสัมพันธ์ เพราะ 89% มองว่า ถุงยางอนามัย คือทางออกที่สำคัญในการหยุดทุกปัญหา และหญิงสาววัยรุ่นถึง 90% พวกเธอเลือกให้ผู้ชายใช้ถุงยางอนามัยจะดีกว่า และมีเพียงแค่ 1% เท่านั้น ที่มองว่าการคุมกำเนิดคือ “เรื่องไม่จำเป็น”

ท้ายสุด ใช่ว่า “วันวาเลนไทน์” จะต้องเป็นวันสุดสำคัญสำหรับคนที่มีคู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่มุมมองสำคัญคือ “ความรักในหัวใจ” ต่างหาก ที่สำคัญกว่าคู่ครอง เพราะแม้แต่คนโสดหากมีความรักอยู่ในหัวใจ ก็ย่อมดีกว่าปล่อยให้หัวใจแห้งเหี่ยว แม้จะไร้ซึ่งคนข้างกายก็ตาม

 

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

Code ลับวันวาเลนไทน์ “ลูบหัวลิง-กวาดห้องกัน” สัญญาณรักพาขึ้นเตียง