ที่ประชุมคกก.มรดกโลก มีมติรับรอง กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 44 ที่มีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ ได้มีมติรับรองให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขึ้นเป็นมรดกโลก หลังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันเข้าสู่การพิจารณามากว่า 6 ปี

สำหรับการลงคะแนน มี 12 เสียงจากตัวแทนทั้งหมด 21 ประเทศ ลงคะแนนเห็นรับรองให้ผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า กว่า 6 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่น ผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 นี้

ทั้งนี้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก

กลุ่มป่าแก่งกระจาน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี รวมพื้นที่ 2,938,909.84 ไร่

สำหรับกลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย ต่อจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี พ.ศ. 2548

เรื่องที่น่าสนใจ

หยุดแชร์ข่าวเก่า อสส. ยัน สั่งฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” คดียา-ขับรถชนตำรวจ