พาณิชย์ เดินหน้า ประกันรายได้ข้าวปีที่ 3 อัดงบ 80,000 ล้านบาท พ่วงมาตรการเสริม 8,000 ล้านบาท หวังพยุงราคาข้าวตกต่ำ จากสถานการณ์โควิด-19

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการ นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมมีมติพิจารณาเดินหน้าโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกปี 3 โดยคงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดิม ในกรอบวงเงินงบประมาณ 80,000 ล้านบาท และงบประมาณสำหรับมาตรการเสริมประมาณ 8,000 ล้านบาท

จากการประเมินผลผลิตข้าวนาปี 2564/65 คาดว่าจะอยู่ที่ 26 ล้านตันข้าวเปลือก โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา 4.58% ซึ่งนอกจากโครงการประกันรายได้แล้ว ยังมีมาตรการเสริมคู่ขนานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เช่น สนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไป โดยเกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท

รวมทั้งช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือโรงสีข้าวที่เก็บสต็อกข้าว และไม่ปล่อยออกสู่ตลาด โดยให้ชดเชยดอกเบี้ย 3% เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.64 -มี.ค.65

สำหรับเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 31 ต.ค.64 ในส่วนของภาคใต้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 64 -28 ก.พ. 65 ซึ่งการจ่ายเงินส่วนต่างจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน ต.ค. – 28 ก.พ.64 ส่วนภาคใต้จะเริ่มจ่ายตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ค. 65”

โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมีนายกเป็นประธาน ได้ช่วง 23 สิงหาคม 2564 ก่อนที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

ทั้งนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 3 กับสินค้าเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ราคายางแผ่นดิบ 60 บาท ราคาน้ำยางสด 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท ยังคงเดินหน้าต่อไป

มีจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7.67 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.5 ล้านครัวเรือน ยางพารา 1.78 ล้านครัวเรือน มันสำปะหลัง 5.2 แสนครัวเรือน ปาล์มน้ำมัน 3.7 แสนครัวเรือน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนครัวเรือน

โดยแต่ละรายการชนิดของสินค้าเกษตรกรจะนำเข้าหารือกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อเห็นชอบก่อนเสนอเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อเสนอเข้า ครม. เห็นชอบต่อไป รายการสินค้าที่จะประชุมต่อไป คือ ข้าวโพดและปาล์มน้ำมัน

อย่างไรก็ตามแนวโน้มของราคาข้าวในขณะนี้ ปรับตัวลดลงเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคชะลอตัว รวมไปถึงการส่งออกข้าวของไทย แต่จากแนวโน้มราคาที่อ่อนตัวลงส่งผลให้การแข่งขันการส่งออกข้าวของไทยดีขึ้น ซึ่งต้องเร่งผลักดันการส่งออกต่อไป โดยราคาข้าวเปลือกเจ้า ปัจจุบันอยู่ที่ 7,000-8,000 บาทต่อตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 8,700-9,400 บาทต่อตัน

เรื่องที่น่าสนใจ

ดันกฎหมาย เลิกใช้ “พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว” ตั้งเป้าปี 70 รีไซเคิลขยะ 100%