สตาร์ทอัพไทยสุดเจ๋ง ผลิต “แผ่นฆ่าเชื้อโควิด” ติดหลังสมาร์ทโฟน ส่งขายทั่วโลก

by ThaiQuote, 11 พฤศจิกายน 2564

ลีฟคลีน เทคโนโลยี บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย พัฒนาแผ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ส่งขายทั่วโลก พร้อมเปิดตัว ซีทัช เจน 2.0 (Z-TOUCH GEN2.0) แผ่นฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียติดหลังมือถือ ร่วมกับศิลปินระดับโลก

 

“วิษณุ จินตนาศิริกุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีฟคลีน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ซีทัช (Z-Touch) เป็นแผ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ติดหลังมือถือและจุดสัมผัสร่วม ซึ่งเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนต่างต้องหาเครื่องมือรวมถึงอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

 

ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการส่งผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งหลังมือถือ ซีทัช เจน 2.0 (Z-TOUCH GEN2.0) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด

 

 

โดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้น ได้การรับรองผลในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ประเทศสหรัฐอเมริกา, CE-Mark ประเทศยุโรป, SIAA ประเทศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

 

ด้วยการใช้ไมโครพอรัสเลเยอร์ (Micro-Porous Layer) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนหลุมดำที่จะดูดเชื้อลงสู่พื้นผิวชั้นล่างและกำจัดโดยทันที ทำให้พื้นผิวของแผ่นซีทัชสะอาดตลอดเวลา ช่วยลดการส่งต่อของเชื้อได้ในระยะเวลาเพียง 2 วินาที มีอายุการใช้งานนาน 90 วัน ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมเป็นเจ้าแรกของโลก มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199 บ.

 

 

นอกจากนี้ ซีทัช เจน 2.0 ยังมีพื้นผิวสามารถออกแบบและพิมพ์ลวดลายได้ ทำให้หลายองค์กรและแบรนด์สินค้ามองว่าสามารถใช้คุณสมบัติดังกล่าวในการพัฒนาเป็นเครื่องมือทางการตลาด โดยลูกค้าสามารถเห็นแบรนด์ขององค์กรหรือสินค้าติดที่หลังมือถือผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา

 

โดยบริษัทฯ ได้มีการเตรียมนำผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งหลังมือถือ ซีทัช เจน 2.0 คอลลาบอเรชั่น (collaboration) สร้างความร่วมมือระหว่างแบรนด์สินค้ากับศิลปินมีชื่อเสียงระดับโลกในหลายประเทศ อาทิ สวีเดน เกาหลีใต้ อเมริกา ฯลฯ เพื่อผลิตเป็นสินค้ารุ่นพิเศษมอบและจำหน่ายกับแฟนคลับ

 

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ ซีทัช มีนวัตกรรมฆ่าเชื้อทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ แผ่นฆ่าเชื้อติดมือถือ แผ่นฆ่าเชื้อติดบริเวณจุดสัมผัสร่วม (ประตู,ลูกบิด,ลิฟท์) และแผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งในแอร์และเครื่องฟอกอากาศ

 

โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร 60% อาทิ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ กระทรวงพลังงาน คิงเพาเวอร์ โรงไฟฟ้า กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี และโรงพยาบาลในประเทศไทยมากกว่า 30 แห่ง ทั้งโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏ โรงพยาบาลสมิติเวช ฯลฯ

 

 

ส่วนใหญ่เป็นการติดตั้งผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อซีทัชบริเวณจุดสัมผัสร่วมในบริเวณสวิสไฟ ที่จับประตู ปุ่มกดอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการส่งต่อของเชื้อ รวมถึงจัดทำเป็นแผ่นฆ่าเชื้อในแบบขององค์กรสำหรับแจกพนักงาน หรือใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม ส่วนอีก 40% เป็นลูกค้ากลุ่มประชาชนทั่วไปที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ซีทัชแบบแผ่นฆ่าเชื้อติดหลังโทรศัพท์มือถือ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้วมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยเริ่มจากหลายประเทศในทวีปเอเชีย อาทิ ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, เวียดนาม, ลาว ฯลฯ รวมถึงมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา และภาคพื้นยุโรป เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ซีทัชเข้าไปจำหน่ายในตลาดฝั่งยุโรปมากขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้ในปีแรกที่วางไว้ 300 ล้านบาท และเติบโตได้มากกว่า 700% จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน