ส่องโอกาส “น้ำผึ้ง” ไทย ในตลาดจีน

by ThaiQuote, 13 พฤศจิกายน 2564

ผึ้ง ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งของเกษตรกรไทย รู้หรือไม่ว่า ไทย เป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชียและอันดับที่ 36 ของโลก

 

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา “น้ำผึ้ง” สินค้าทางการเกษตร ส่งออกที่สำคัญ และสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง

 

ไทยมีการผลิตน้ำผึ้งหลักอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ 1. น้ำผึ้งดอกลำไย มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีรสที่หวานกำลังพอดี ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของประเทศคู่ค้าและเป็นสินค้าที่มีราคาสูง โดยไทยเป็น 1 ในแหล่งผลิตน้ำผึ้งดอกลำไยเพียงไม่กี่แห่งในโลก

 

2.น้ำผึ้งป่า ได้มาจากการเลี้ยงด้วยดอกสะเดา และดอกสาบเสือ มีรสชาติหวานต้นขมปลาย มีกลิ่นหอม แต่สีจะไม่เข้มเท่าน้ำผึ้งดอกลำไย

 

3.น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่และดอกทานตะวัน มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีสีน้ำตาลเหลืองและมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์

 

โดยแหล่งเลี้ยงผึ้งสำคัญของไทยจะอยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศ อาทิ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงผึ้งที่สำคัญของประเทศและใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ด้วยศักยภาพดังกล่าว จึงเป็นโอกาสการส่งออกน้ำผึ้งของไทย ไปยังประเทศจีน ซึ่งชาวจีนกว่า 1,400 ล้านคน ให้ความนิยมบริโภคน้ำผึ้งเป็นจำนวนมากถึงปีละ 300,000 ตัน หรือคิดเป็น 3 เท่าของปริมาณที่จีนส่งออก โดยเป็นสินค้าที่หาได้ง่ายมากกว่าน้ำตาล ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต จีนจึงถือเป็นตลาดน้ำผึ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีโอกาสเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

 

แม้ว่าจีนจะเป็นผู้ผลิตน้ำผึ้งได้มากที่สุดในโลก แต่ผู้บริโภคในจีนกลับนิยมน้ำผึ้งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมากกว่า เนื่องจากน้ำผึ้งในประเทศจีน เป็นน้ำผึ้งที่ไม่ได้มาตรฐานรวมทั้งมีน้ำผึ้งปลอมจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนมีความกังวลและไม่มั่นใจในสินค้าท้องถิ่น จึงหันมาให้ความสนใจกับสินค้านำเข้าและคุณภาพของสินค้าแทน โดยเฉพาะน้ำผึ้งจากประเทศไทยที่มีราคาไม่สูง แต่คุณภาพดี และมีรสชาติโดดเด่น

 

ความนิยมในการบริโภคน้ำผึ้งไทยของชาวจีน ที่สามารถเห็นได้ชัด จากนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเข้ามาท่องเที่ยวในไทย มักซื้อน้ำผึ้งกลับไปเป็นของฝากจำนวนมาก

 

ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสของเกษตรกร และผู้ประกอบการไทยที่จะหาช่องทางในการส่งออกน้ำผึ้งไปยังประเทศจีน โดยคาดการณ์ว่าตลาดน้ำผึ้งไทยในจีนนั้นยังมีโอกาสโตขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน ที่หันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพกันมากขึ้น

 

ประชากรชาวจีนมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวิถีชีวิตของชนชั้นกลางมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพมากขึ้น ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่ จึงหันมาตระหนักถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพของตน

 

ตามตำราศาสตร์แพทย์แผนจีน “น้ำผึ้ง” ถือเป็นยา มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ การปรับสมดุลให้กับร่างกาย การช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้ดีขึ้น การรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การบรรเทาอาการท้องเสีย การรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

 

อีกทั้งยังช่วยชะลอวัยและบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากน้ำผึ้งมีสารประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วย ป้องแสงแดดและรังสี UV และยังมีสารที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงเนียนนุ่มยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา : globthailand