การกู้ยืมเงินที่แพร่ระบาดในขณะนี้ ทำให้เกิดความล่าช้าในการชำระหนี้ หนี้ครัวเรือนกลายเป็นประเด็นหาเสียง

by วันทนา อรรถสถาวร : แปลและเรียบเรียง, 9 กุมภาพันธ์ 2566

การกู้ยืมของผู้บริโภคชาวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่เกิดโรคระบาด จนกลายเป็นประเด็นรณรงค์โดยนักการเมืองที่ต้องการสร้างประชานิยมได้ผลักดันให้มีการพักชำระหนี้เป็นเวลาหลายปี

 

 

ครัวเรือนไทยเป็นหนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ตามตัวเลขล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมาก

หนี้ผู้บริโภคของไทยในเดือนกันยายนอยู่ที่ 14.9 ล้านล้านบาท หรือ 86.8% ของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 70% ในช่วงต้นปี 2563 ระหว่างปี 2562-2563 การค้างชำระสินเชื่อผู้บริโภคนานถึง 90 วันเพิ่มขึ้นสามเท่าเป็นมากกว่า 1 ล้านล้านบาท และยังคงอยู่ เหนือระดับนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ธนาคารกลางกล่าว

“โควิดทำให้คนที่มีวินัยดีกลายเป็นคนที่มีหนี้มหาศาลในเวลาเพียง 2 ปี” สุรพล โอภาเสถียร ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งติดตามลูกหนี้หลายล้านรายของธนาคารของประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเดือนธันวาคม

โครงการผ่อนปรนของรัฐบาลได้ช่วยลดภาระของผู้กู้ แต่ความพยายามหลายอย่างเหล่านี้กำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และด้วยการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง นักการเมืองไทยบางคนจึงเรียกร้องให้มีการชะลอการชำระหนี้ออกไปอีก

พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้พักชำระหนี้ผู้บริโภคเป็นเวลา 3 ปี โดยออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่

“โควิดทำให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมา 3 ปี ดังนั้นใครก็ตามที่มีหนี้ถูกต้องตามกฎหมาย ภูมิใจไทยจะให้พักร้อนสูงสุด 1 ล้านบาทเป็นเวลา 3 ปี” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและรมว.สาธารณสุข กล่าว

ชาติไทยพัฒนากล้า พรรคที่นำโดยอดีตรัฐมนตรีคลัง เรียกร้องให้เปลี่ยนรายชื่อลูกหนี้ของสำนักงานเครดิตแห่งชาติด้วยระบบเครดิตสกอริ่งอย่างเป็นทางการ ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยและทำให้ปล่อยสินเชื่อได้ยากขึ้น

ภาระหนี้ของบุคคลเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางลังเลในปีที่แล้วที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐและประเทศเพื่อนบ้าน ในที่สุดธนาคารก็โค้งคำนับกับอัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคม และตอนนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.5% หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 4 ครั้ง

การเปลี่ยนแปลงนโยบายจะเพิ่มภาระให้กับผู้กู้ที่มีช่องทางจำกัดซึ่งใช้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ฐิติมา ชูเชิด หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดเศรษฐกิจและการเงิน SCB Economic Intelligence Center กล่าว “แม้ว่าผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจำกัดเฉพาะหนี้บางประเภท แต่ภาระหนี้ที่สูงขึ้นอาจทำให้ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยเหล่านั้นมีความเสี่ยงมากขึ้น”

ตั้งแต่ปี 2560 ธนาคารกลางได้ทำงานร่วมกับผู้ให้กู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ผู้บริโภคสูงถึง 2 ล้านบาท ณ เดือนสิงหาคม มีลูกหนี้มากกว่า 30,000 ราย เงินต้นรวมกัน 6.85 พันล้านบาท

หนึ่งในผู้เข้าร่วมคือ “แหม่ม” ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทางภาคเหนือของประเทศไทย กล่าวว่าเธอพบว่าตัวเองกำลังดิ้นรนกับหนี้สิน นับตั้งแต่เธอปิดกิจการตลาดนัดพาร์ทไทม์เมื่อ 4 ปีก่อนหลังจากมีลูก เธอเป็นหนี้บัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ เงินกู้ส่วนบุคคลจากนายจ้างเพื่อไปทำงานอื่น และเงินกู้ยืมสำหรับรถยนต์สองคัน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ถูกยึดในที่สุด

เมื่อปีที่แล้วเธอสมัครเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย คลินิกรับภาระหนี้บัตรเครดิต 60% ของ 163,000 บาท และลดค่าผ่อนต่อเดือนเหลือ 750 บาท “ฉันเคยรู้สึกว่าไม่มีที่ให้กลับ แต่ฉันตัดสินใจเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้” แหม่มกล่าว

การติดตามภาระหนี้ผู้บริโภคของประเทศไทยเป็นเรื่องยากสำหรับธนาคารกลาง เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ที่ดูแลอยู่มีสัดส่วนเพียง 43% ของสินเชื่อภาคครัวเรือน ส่วนที่เหลือจัดทำโดยบริษัทการเงินประเภทอื่น เช่น ผู้ให้กู้เฉพาะกิจและสหกรณ์ออมทรัพย์

ผลกระทบต่อธนาคารขึ้นอยู่กับส่วนผสมของลูกค้า กำไรของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารไทยที่ใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ เพิ่มขึ้น 10.6% ในปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงผลตอบแทนที่แข็งแกร่งจากลูกค้าองค์กร ในทางตรงกันข้าม ธนาคารกสิกรไทยซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับสองของประเทศไทย ซึ่งให้สินเชื่อแก่ผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กเป็นหลัก รายงานผลกำไรลดลง 6% ในปี 2565 เนื่องจากสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 28.73% เป็น 51.9 พันล้านบาท

ที่มา: นิเคอิ เอเชีย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ดิสนีย์เตรียมปลดพนักงาน 7,000 คน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและจัดระเบียบใหม่ คาดจะลดต้นทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์
https://www.thaiquote.org/content/249457

รถไฟเชื่อมจีน-ลาว-ไทยออกเดินทางแล้ว เตรียมขนทุเรียนไทยกลับจีน
https://www.thaiquote.org/content/249455

7 นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุใช้ชีวิตง่ายและปลอดภัยขึ้น
https://www.thaiquote.org/content/249453