อินโดไปให้สุด ไม่หยุดแค่เรื่องป่า! เพราะแค่รักษาที่มีอยู่ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป

by ThaiQuote, 7 สิงหาคม 2566

7 สิงหาคมเป็นวันป่าไม้ของอินโดนีเซีย ถือเป็นอีกวันที่สะท้อนให้เห็นความใส่ใจในการปกป้อง รักษาทรัพยากรป่าไม้ ควบคู่ไปกับสนับสนุนพลังงานสะอาดซึ่งจะเป็นรากฐานที่ยั่งยืนในอนาคต

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีป่าไม้มากเป็นอันดับสามของโลก พื้นที่มากกว่าร้อยละ 50 ของอินโดนีเซียปกคลุมด้วยป่าไม้ที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตบนโลก โดยเฉพาะชีวิตของชาวอินโดนีเซีย แม้ว่าป่าจะเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อความสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการคุกคามป่าไม้ ทั้งจากมนุษย์และภัยธรรมชาติ

ล่าสุดกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียเปิดเผยว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าต่อปีลดลง 8.4% ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมไฟที่ดีขึ้น และการจำกัดใบอนุญาตใหม่สำหรับป่าดิบชื้นและพื้นที่พรุ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการมีอยู่ของป่าในประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 7 สิงหาคม 2020 จึงถูกริเริ่มให้เป็น Indonesia’s Forest Day หรือวันป่าไม้ของอินโดนีเซีย ซึ่งมาจากแรงผลักดันของทั้งภาครัฐและประชาชน

นอกจากอินโดนีเซียจะให้ความสำคัญต่อการปกป้อง รักษาทรัพยากรป่าไม้ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่แล้วนั้น ยังให้ความสนใจในเรื่องการนำพลังงานสะอาดมาใช้อีกด้วย ล่าสุด United in Diversity (UID) และ RMI (Rocky Mountain Institute) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจและความร่วมมืออย่างเป็นทางการเพื่อเปิดตัวโครงการ Happy Energy Action Leadership (HEAL) โดย RMI และ UID จะจัดหาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเริ่มต้น 30 - 50 รายในภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญที่สำคัญรวมถึงมีความพร้อมทางด้านศักยภาพเพื่อเป็นผู้นำและเปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Just Energy Transition Partnership (JETP)

อินโดนีเซียกำลังอยู่ในเส้นทางการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมด้วยคำมั่นสัญญาการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก International Partner Group (IPG) นำโดยสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น โดยใช้เงินสนับสนุนมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดของอินโดนีเซีย เพื่อหล่อหลอมรากฐานของ JETP

อินโดนีเซียได้ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายในการบรรลุการรวมพลังงานหมุนเวียนเกือบ 34% และจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการผลิตไฟฟ้าที่ 290 เมกะตันคาร์บอนไดออกไซด์ ภายในปี 2573 และตั้งเป้าการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่ง RMI กำลังสนับสนุนรัฐบาลอินโดนีเซียในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ภายใต้คณะทำงาน JETP เพื่อกำหนดเส้นทางที่ชัดเจนในการบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายเหล่านี้

จาก Indonesia’s Forest Day สู่การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในประเทศอินโดนีเซีย จะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชน ตั้งแต่การให้ความร่วมมือภายในประเทศจนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าอนาคตที่ยั่งยืนเริ่มจากความร่วมมือ และสุดท้ายการดูแลรักษาสิ่งที่มีอยู่อาจต้องมาพร้อมกับการมองหาสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อสร้างโอกาส วางรากฐานให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://econusa.id/en/ecoblogs/celebrating-the-first-indonesias-forest-day/ 

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/indonesia-cites-deforestation-decline-stricter-controls-2023-06-26/ 

https://esgnews.com/indonesia-boosts-energy-leadership-to-deliver-on-20-billion-commitment/ 

https://rmi.org/press-release/indonesia-boosts-energy-leadership-to-deliver-on-20-billion-commitment/ 

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ภาวะ 'โลกเดือด'เริ่มแล้ว คนล้มป่วยหลายร้อยราย ในงานชุมนุมลูกเสือโลกเกาหลี

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ จุดหมายใหม่ใกล้เมืองกรุงฯ