GGC ชู 3 พอร์ต ESGสร้างคุณค่า พลังงาน -เคมี-อาหารเสริม มิติยั่งยืนเกษตรกร อากาศยาน จนถึงมหาสมุทร

by ESGuniverse, 22 กุมภาพันธ์ 2567

GGC ยกทัพจุดแข็งเคมีภัณฑ์สายกรีน ต่อยอด จากผู้นำน้ำมันไบโอ-ก๊าซชีวภาพ หนุนเกษตรกรปาล์ม มีรายได้ จิ๊กซอว์ลงทุนปาล์มยั่งยืน ชู 3 พอร์ตธุรกิจ พลังงาน เคมีชีวภาพ และอาหารเสริม รุกสู่ น้ำมันอากาศยานเพื่อการบินสะอาด เฟ้นนวัตกรรมย่อยไขมันพืช-สัตว์ธรรมชาติ

 

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ “TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE” หรือ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน


โดยความยั่งยืนและการเติบโตทางธุรกิจ จะต้องควบคู่กัน แผนยุทธศาสตร์ปี 67 จึงขับเคลื่อนตามกรอบ ESG เป้าหมายเพื่อต้องการเป็นบริษัทที่พูดได้ว่า “Green” ตามชื่อของบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอลฯ พร้อมกันกับ ทำธุรกิจโปร่งใส ตรวจสอบได้ สอดคล้องกับทิศทางกติกาสากลสำหรับเป้าหมายระยะสั้น ได้วางแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 20 % ภายในปี2030 (พ.ศ.2573) การปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นศูนย์ ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593)


จากปีผ่านมาได้มีการปรับปรุงด้านการผลิต สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1422 ตันคาร์บอนไดออกไซด์สมมูล (CO2eq) อีกทั้งยังส่งเสริมเกษตรกร 1000 กว่ารายเข้าสู่โครงการอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) ด้วยการสนับสนุนเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ไบโอดีเซล (Biodiesel) โครงการไบโอแก๊ส (Biogas) และขยายธุรกิจไปยังตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพทางทะเล (Marine Biofuel) รวมถึงเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) มุ่งหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด


บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขับเคลื่อนสร้างโอกาสความสำเร็จสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success


ปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน

 

เสริมแกร่ง อุตฯ น้ำมันปาล์มยั่งยืน

 

ด้านความเข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) : สร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิต มุ่งเน้นการลดต้นทุนในองค์กร (Cost Optimization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการการปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ (Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างเหมาะสม การเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน (RSPO) และการจัดการด้านการพัฒนาธุรกิจให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เป็นอย่างดี (Operation Excellence) โดยบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลัก (Core Business) อาทิ เมทิลเอสเทอร์ (ME) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) และเอทานอล (EtOH)

 


3 พอร์ตธุรกิจ เติบโตเชิงมูลค่า
พลังงานชีวภาพ -เคมีชีวะ -อาหารเสริม

 

ด้านการเติบโต (Growth Portfolio) : ปรับพอร์ตลงทุนให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ พลังงานชีวภาพ (Bioenergy), ชีวเคมี (Biochemicals) และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food Ingredients & Pharmaceutical) เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น (High Value Product) ผู้ผลิตอาหารเสริมภายใต้แบรนด์ “Naturalist” โดยการขยายพอร์ตการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

 


ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (BioEnergy Business) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง PTT GC และ GGC ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาโครงการและความเป็นไปได้ของโครงการ ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านตลาด เทคโนโลยี การผลักดันด้านนโยบาย และการสร้างความร่วมมือกับสายการบิน โดยมี 3 โครงการ ดังนี้

รุกเชื้อเพลิงชีวภาพ ตอบโจทย์ อากาศยานยั่งยืน


โครงการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ : ปัจจุบันได้ศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการปรับปรุงโรงงานเพื่อนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยคาดว่าจะดำเนินการระยะที่ 1 แล้วเสร็จ และดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2025 คาดการณ์การผลิต 20000 ตัน/เดือน


 โครงการการผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืนจากเอทานอล (Alcohol to Jet: ATJ) : เป็นการศึกษาแผนการลงทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เอทานอลเพื่อผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยมีแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2030 รองรับความต้องการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) คาดการณ์ผลิต 400 ตัน/เดือน

 

Green มารีน ขนส่งเดินเรือสมุทรสีเขียว 

โครงการ Green Methanol : เป็นการศึกษาเพื่อต่อยอด และขยายปลายทางธุรกิจไปสู่ตลาด Marine Biofuel หรือน้ำมันเรือเดินสมุทร ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดการณ์ในปี 2027 มีสะสม 10ล้านตัน/ปี และในปี 2030 จะเพิ่มขึ้นเป็น 70ล้านตัน/ปี เน้นให้ความสำคัญกับการขนส่งที่เป็นต้นทุนการผลิตสำคัญของประเทศเพื่อตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์ การลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization)


ค้นนวัตกรรม แปลงไขมันพืช-สัตว์
ย่อยสลายตามธรรมชาติ


สำหรับธุรกิจ ธุรกิจเคมีชีวภาพ (Bio Chemical Business) อยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบไขมันพืชและสัตว์ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ หรือ Oleochemicals ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สีเขียวผ่านพันธมิตร


ปรับการใช้พลังงาน ลดคาร์บอนฯ
จัดการน้ำ ลดต้นทุน 8.5 ล้านบาท


ด้านความยั่งยืน (Sustainability Development) : มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจากการลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย GGC ยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการสร้างคุณค่า ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน“ESG” ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และด้านธรรมาภิบาล (Governance)

 


บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการผลิตภายใน เพื่อให้ลดการปล่อยคาร์บอน โดยมีการปรับปรุงความยืนหยุ่นในการใช้พลังงาน ใช้น้ำมันเตาในอัตราส่วน 80:20 ในบางโรงงาน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 6,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ (TonCO2eq) ช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย 8.5 ล้านบาท และใช้ทรัพยากรน้ำลดลง 7500 ตัน