“พิชัย” หยัน “บิ๊กตู่” อันดับแข่งขันไทยปี 51 เคยอยู่ที่ 28

by ThaiQuote, 22 ตุลาคม 2561

วันนี้ (22 ต.ค.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลดีใจว่าอันดับความสามารถแข่งขันของไทยที่จัดโดยเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม ดีขึ้น 2 อันดับ จาก 40 มาอยู่อันดับที่ 38 นั้น อยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า ความสามารถแข่งขันของไทยที่ประกาศในปี 2560 อยู่ที่อันดับที่ 40 ซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี และในปี 2561 ดีขึ้นมา 2 อันดับ อยู่ที่ 38 จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจนัก เพราะหากมองย้อนหลัง 10 ปี อันดับความสามารถแข่งขันที่ดีที่สุดของไทยเคยอยู่อันดับที่ 28 ในปี 2551 จนมาตกต่ำที่สุดในปี 2560 ที่อันดับ 40 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และปีนี้ดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 38 ก็ยังห่างจากอันดับ 28 มาก “สาเหตุหลักที่ความสามารถแข่งขันของไทยลดต่ำลง เกิดจากความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลและการปฏิวัติรัฐประหาร จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไข และอยากให้เคารพเสียงของประชาชนให้รู้จักแพ้ รู้จักชนะ เหมือนที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.คนใหม่ ประกาศ พวกที่คิดจะปั่นป่วนประเทศไม่รับฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องเลิกทำ และเชื่อว่าการปฏิวัติรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการปฏิวัติรัฐประหารได้สร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล โดยเฉพาะความเสียหายทางเศรษฐกิจ ขนาดมีนักวิชาการประเมินกันว่าความเสียหายจากการปฏิวัติรัฐประหารตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีถึงประมาณ 10.97 ล้านล้านบาท ซึ่งหากไม่มีการปฏิวัติ ประชาชนคงมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้มาก โดยถึงแม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโตได้ร้อยละ 4 กว่า แต่ก็เสียโอกาสมา 4 ปี ที่เศรษฐกิจโตต่ำ แทนที่ไทยจะโตได้มากกว่าร้อยละ 4-5 ทุกปีตามศักยภาพหากไม่เกิดการปฏิวัติ” นายพิชัย กล่าว นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะกลับไปโตต่ำลงอีกครั้ง ตามคำเตือนของธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย และไอเอ็มเอฟ ทั้งนี้ เพราะไทยจะประสบปัญหาการลงทุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลงมากมาตลอด 4 ปี อีกทั้งเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวต่ำลงด้วย ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจจีนก็จะโตต่ำลงในปีหน้า และจีนจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น “ดังนั้น ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของประเทศกลับมา จึงอยากเรียกร้องขอทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในทุกด้าน ระมัดระวังคำพูดที่จะสร้างความเสียหาย อีกทั้งควรจะต้องปลดล็อกทุกอย่าง และอนุญาตให้หาเสียงได้อย่างเสรี ทั้งการลงพื้นที่ และทางโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ต้องยกเลิกการกลั่นแกล้งและการดำเนินคดีทางการเมืองทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม เป็นที่เชื่อถือได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทยให้กลับมาโดยเร็วที่สุดหลังการเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่จะได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาการกินดีอยู่ดีของประชาชนได้โดยเร็ว หลังจากที่ลำบากกันอย่างมากมากว่า 4 ปีแล้ว” นายพิชัย กล่าว   ข่าวที่เกี่ยวข้อง บิ๊กตู่แฮปปี้ ไทยขยับอันดับความสามารถแข่งขันระดับโลก