ออกกำลังการด้วยการเดินไม่ต้องลงทุน แต่ได้สุขภาพดี

by ThaiQuote, 9 ธันวาคม 2561

ผศ. นพ.ชูศักดิ์ กิจคุณาเสถียร สาขาวิชาเวชศาสตร์การกีฬา ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ โรงาพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวว่า การเดินวันละหนึ่งหมื่นก้าว (ประมาณ 6-8 กิโลเมตร หรือประมาณ 15-20 รอบสนามฟุตบอล) เทียบเท่าได้กับการออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน หากนับเป็นการเผาผลาญพลังงานจะได้ประมาณ 250 – 500 กิโลแคลอรี ขึ้นอยู่กับความเร็วของการเดิน  ซึ่งแน่นอนว่าดีต่อสุขภาพทั้งกล้ามเนื้อ, หัวใจ, และปอด ส่วนประโยชน์ทางตรง ช่วยความกระฉับกระเฉงของกระดูกและข้อ แข็งแรงของกล้ามเนื้อ ที่สำคัญอย่างยิ่ง การเดิน ไม่เสี่ยงกับการบาดเจ็บเหมือนการเล่นกีฬาอย่างอื่น ในทางอ้อมถ้าเราเดินอย่างจริงจังสม่ำเสมอ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง โรคบางโรคก็จะดีขึ้น เช่น เบาหวาน และความดัน การเดิน 10,000 ก้าวดูเหมือนมาก แต่ค่อยๆ ทำในแต่ละวันได้ โดยการเลือกเดินเพื่อทำบางกิจกรรม เช่นเลือกที่จะเดินแทนนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เลือกที่จะเดินไปรับประทานอาหารใกล้บ้าน สะสมไปวันละเล็กละน้อย 10,000 ก้าว ไม่น้อยไปในแต่ละวัน ในปัจจุบันคนไทยอ้วนและเป็นโรคมากขึ้น การเดินอย่างน้อยจะช่วยลดความอ้วนและเป็นโรคน้อยลง การเดินไม่ต้องลงทุนแต่ได้สุขภาพที่แข็งแรงขึ้น เดินให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ จะต้องมีท่าทางในการเดินที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บจากการเดิน และป้องกันอันตรายระหว่างเดิน ท่าเดินที่ถูกต้องคือหลังตรง การก้าวไม่ควรยาวเกินไปควรก้าวสั้นๆแต่ก้าวถี่ มีการแกว่งแขนประกอบ ไม่ก้มหน้า ข้อต่อมาคือ ความเร็วในการเดิน ความเร็วในการเดินที่เหมาะสมของแต่ละคนไม่เท่ากัน มีหลักการง่ายๆคือ เราจะต้องเหนื่อยแต่ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ ไม่ถึงขั้นหอบ หายใจไม่ทัน แต่อย่างน้อยต้องมีเหงื่อออกบ้าง และรู้สึกว่าต้องหายใจมากกว่าปกติ หัวใจทำงานมากกว่าปกติ ระยะเวลาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ควรจะเดินต่อเนื่องอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อครั้ง หรือใครที่เริ่มเดินใหม่อาจแบ่งเป็นสองรอบรอบละ 15 นาที พักระหว่างรอบ 2-3 นาที เท่านี้การเดินของเราก็จะเหมาะสมต่อการออกกำลังกายและเผาผลาญพลังงาน สิ่งที่ไม่ควรทำขณะเดินออกกำลังกาย การถือของหนักเกินความจำเป็น จะทำให้เราไม่สามารถแกว่งแขนตามธรรมชาติได้ และอาจส่งผลให้มีอาการปวดตามมา การเล่นโทรศัพท์นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัตเหตุในขณะออกกำลังกายอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมยืดกล้ามเนื้อ ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี