“พลังประชารัฐ” By ลุงป้อม โดนตั้งคำถามหนัก “เสี่ยแฮงค์-อ.แหม่ม” มีดีอะไร

by ThaiQuote, 28 มิถุนายน 2563

เปิดตัวแล้วมีแต่คนยี้! “พลังประชารัฐ” ของลุงป้อม โดนตั้งคำถามหนัก “เสี่ยแฮงค์-อาจารย์แหม่ม” มีดีอะไรถึงไว้ใจกุมชะตาเศรษฐกิจชาติ ลามกดดันถึง “ลุงตู่” เร่งแก้เกม ก่อนประเทศตกหลุมกลโกงเกมการเมือง

จากแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ทางการเมือง เมื่อพรรคแกนนำรัฐบาล “พลังประชารัฐ” ยกเครื่องกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นำทีมโดยแม่ทัพใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมปรับแกนนำเก่า 4 กุมารออกไป คือ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

โดยชู นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียนของพรรค ดูแลเรื่องกฎหมาย และอีกคนที่น่าสนใจไม่น้อย คือ “อาจารย์แหม่ม” น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้มานั่งเป็นเป็นเหรัญญิก


ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (27 มิ.ย.63) ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย เพราะทีมกรรมบริหารพรรคชุดนี้ เป็นการรวมดาวอดีต “เพื่อไทย” และ “กปปส.” ที่ก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเป็นคนขั้วคนละทางในอุดมการณ์ทางการเมือง ที่มาทำงานร่วมกันอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะปรองดองกันได้

ภาพดังกล่าวทำให้ ความกดดันพุ่งมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทันที เพราะมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกรับไม่ได้ ไม่เชื่อมั่นในทีมชุดนี้ โดยเฉพาะ “เสี่ยแฮงค์” และ “อาจารย์แหม่ม” ที่มีการวางไว้ให้เป็นหัวหอกทีมเศรษฐกิจ เช่น ล่าสุด ฟองสนาน จามรจันทร์ สื่อมวลชนอาวุโส ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก “Fongsanan Chamornchan” เรียกร้องให้ช่วยกดดันไปยังลุงตู่

โดยบอกว่า ได้ทีมเศรษฐกิจเช่นนี้ควรจะยุบสภาเสียดีกว่า ประเทศชาติกำลังอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทางเศรษฐกิจ นายกฯ ต้องอย่าหลงกลพวกนักการเมือง เปลี่ยนม้ากลางศึก โดยมองว่ากลุ่มนี้ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไร โดยเฉพาะนายอนุชา และนางนฤมล

 


เช่นเดียวกันกับอีกราย คือ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็น ไปในทิศทางตรงกันแบบเป๊ะๆ ติงในเรื่องนี้โดยยกตอนหนึ่งในการแถลงข่าวของนายอนุชา นาคาศัย ที่บอกว่า “โฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรคจะนำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และคนมีชื่อเสียงของประเทศ ขอให้รอตกผลึกอีกครั้ง”

นายชูชาติ แสดงความเห็นค่อนข้าง “แรง” ว่า “ถ้าพิจารณาจากการที่นางนฤมลที่ทำหน้าที่โฆษกของรัฐบาลเป็นเวลา 1 ปีเศษ การทำงานที่ปรากฎต่อสาธารณชนก็คือไม่ต่างกับรัฐบาลชุดนี้ “ไม่มีโฆษก”

นอกจากนี้ ยังยกกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งให้นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษก ศบค. เพราะเชื่อว่าถ้าให้โฆษกรัฐบาลเป็นผู้แถลงข่าวเรื่องโควิด-19 เชื่อได้เลยว่าประชาชนจะไม่รับฟัง

 

 

เรียกได้ว่ายังไม่ทันได้เริ่มทำงาน กระแสต่อต้านก็มีมาทันที และงานนี้คนที่ต้องปวดหัวที่สุดก็คงไม่พ้น “ลุงตู่” ที่จากนี้ไปคงต้องคิดหนัก เพราะห้วงเวลานี้ดูจากสถานการณ์แล้วเห็นได้ว่า “การบริหารบ้านเมือง” และ “เกมการเมือง” นั้นเป็นคนละเรื่องกันอย่างชัดเจน

 

ข่าวที่น่าสนใจ