“มันหมายความว่ามันเป็นมากกว่าแค่การทำงาน มีวัฒนธรรมที่ช่วยให้ทุกคนสามารถส่งมอบงานที่มีความหมายได้”- Nick-

โดย อเล็กซ์ คริสเตียน

วิกฤตการณ์โควิด ทำให้พฤติกรรม และเงื่อนไขการทำงานเปลี่ยนไป เกิดปรากฏการณ์การลาออกจากที่ทำงานเดิม เพื่อหาเงื่อนไขการทำงานใหม่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ในขณะที่คนงานบางคนกำลังเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการใช้เวลาหลายสิบปีในงานเดียวกัน

เนื่องจากตลาดแรงงานกำลังบูมกับคนกลุ่มหนึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พนักงานจำนวนมากได้ใช้ประโยชน์จากภูมิทัศน์การจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงไป ยอมที่จะลาออกจากงานประจำเพื่อหาโอกาสการทำงานที่รุ่งเรืองใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมใหม่ การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ทำให้แนวคิดการเป็น “ลูกหม้อ” เป็นเรื่องที่ไม่ทันสมัย

แม้ว่ากลุ่มคนทำงานที่เคลื่อนไหวคล่องตัวสูงกลุ่มนี้จะแอบหาเวลาจากการทำงานที่บ้าน เพื่อหาโอกาสงานใหม่ ๆ ในช่วงของการระบาดใหญ่ของโควิด แต่คนงานจำนวนมากยังคงเลือกที่จะอยู่ในที่เดียว การย้ายบทบาทอาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ แต่ปัจจัยต่างๆ เช่น วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง เส้นทางอาชีพที่ชัดเจน และความมั่นคงในการทำงาน มีเสน่ห์มากกว่าสำหรับพนักงานบางคน และพวกเขามีความสุขกับการเลือกที่จะอยู่ในที่เดิมที่พวกเขาทำงานมาหลายปีแล้ว

จากข้อมูลของลูกจ้างและผู้เชี่ยวชาญ มีเหตุผลหลักสองประการที่พนักงานยังคงอยู่กับบริษัทตลอดชีวิต ประการแรก บริษัทขนาดใหญ่บางแห่งได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ส่งเสริม และรักษาพนักงานในแบบที่บริษัทอื่นไม่ได้ทำ ซึ่งหมายความว่าพนักงานที่มีความทะเยอทะยานสามารถเข้าถึงจุดสูงสุดของอาชีพได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนงาน ในกรณีอื่นๆ พนักงานอาจให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความมั่นคงทางการเงิน มองว่าอาชีพการงานเป็นหนทางไปสู่บั้นปลายของชีวิต และต้องการที่จะเกษียณในบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ขณะนี้

บริษัทขนาดใหญ่บางแห่งได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ส่งเสริม และรักษาพนักงานในแบบที่บริษัทอื่นไม่ได้ทำ

มีการเติบโต

Allan Lee อาจารย์อาวุโสด้านการศึกษาและการจัดการองค์กรที่ University of Exeter Business School สหราชอาณาจักรกล่าวว่า ความจำเป็นในการก้าวหน้าในชีวิตและบรรลุผลสำเร็จนั้นมีมาแต่กำเนิด บริษัทเดียวสามารถตอบสนองความต้องการนี้ และตอบสนองความต้องการของพนักงานที่มีความทะเยอทะยาน โดยการจัดเตรียมเส้นทางอาชีพที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและความรู้สึกของความก้าวหน้า “ความรู้สึกที่คุณกำลังสร้างไปสู่เป้าหมายคือแรงกระตุ้นที่แข็งแกร่งในการทำงานต่อไป” ลีกล่าว

"ฉันคิดว่าการมีอายุงานที่ยืนยาวจะสร้างความเคารพและความไว้วางใจ และโอกาสที่จะสร้างสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวคุณเอง" – Nick

Nick สถาปนิกชาวนิวยอร์กเริ่มต้นที่บริษัทของเขาในตำแหน่งเริ่มต้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จากนั้นจึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างรวดเร็ว การเลื่อนตำแหน่งแต่ละครั้งทำให้เขามีโอกาสทำงานในโครงการที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากขึ้น โดยออกแบบการพัฒนาในละแวกใกล้เคียงที่เป็นที่ปรารถนามากที่สุดในสหรัฐอเมริกา “ผมได้รับแรงบันดาลใจจากการอยู่ในบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมให้เติบโต ซึ่งเป็นที่ผมคิดว่าการทุ่มเทของผมมีคุณค่า” เขาอธิบาย

เมื่อนิคสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น เขาก็รับตำแหน่งระดับสูงขึ้น เป็นผู้นำเพื่อนร่วมงานในโครงการมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ทั่วโลก ตั้งแต่แมนฮัตตันจนถึงเซี่ยงไฮ้ “ผมโชคดีที่สามารถสร้างทีมที่มีแรงจูงใจให้ทำงานร่วมกันและตรวจสอบสถาปัตยกรรมได้” เขากล่าว “มันหมายความว่ามันเป็นมากกว่าแค่การทำงาน มีวัฒนธรรมที่ช่วยให้ทุกคนสามารถส่งมอบงานที่มีความหมายได้”

ปัจจุบัน Nick อยู่ที่จุดสูงสุดในอาชีพการงานของเขา นั่นคือ ผู้บริหารและผู้นำด้านการออกแบบของบริษัท ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี เขาสามารถสั่งการความรู้มากมาย สร้างแรงบันดาลใจให้กับทิศทางของบริษัทของเขา และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของบริษัท “เมื่อผมเข้าร่วมบริษัท มีพนักงาน 35 คนในสำนักงานแห่งเดียว ตอนนี้มีพนักงาน 1,100 คน ในสตูดิโอ 24 แห่งทั่วโลก” เขาอธิบาย “ฉันคิดว่าการมีอายุงานที่ยืนยาวสร้างความเคารพและความไว้วางใจ และโอกาสที่จะสร้างบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวคุณเอง”

คนงานบางคนพบช่องว่างของตัวเองในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับทั้งทักษะและชีวิตของพวกเขา

ความสะดวกสบายและความปลอดภัย

ไม่ใช่ว่าพนักงานทุกคนที่อยู่กับนายจ้างมานานหลายทศวรรษจะต้องปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของอาชีพอย่าง Nick อย่างต่อเนื่อง พนักงานบางคนอาจพอใจในอันดับกลางที่มั่นคงจนถึงเกษียณ

จอห์นนี่ ซี เทย์เลอร์ จูเนียร์ ประธานและซีอีโอของ Society for Human Resource Management (Shrm) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า "พวกเขาอาจเห็นคุณค่าของการควบคุมตำแหน่งและรับบทบาทของผู้เชี่ยวชาญ" “สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสนุกกับความมั่นคง กิจวัตร และความสมดุลระหว่างชีวิตและงานมากกว่า เมื่อเทียบกับตำแหน่งผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูง”

การเคลื่อนไหวยังมาพร้อมกับความเสี่ยง: ความมั่นคงในอาชีพและความสะดวกสบายสามารถโน้มน้าวให้พนักงานอยู่ในองค์กรได้ นอกจากนี้ การปฏิบัติจริงทางการเงินอาจหมายถึงองค์กรที่เสนอให้ขึ้นค่าแรงอย่างต่อเนื่อง และแผนบำเหน็จบำนาญสามารถกักขังพนักงานไว้ได้ในระยะยาว “ความไม่แน่นอนอาจเป็นสาเหตุของความเครียด” ลีกล่าว “ผู้คนต้องการความปลอดภัย และถึงแม้ว่าการอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งตลอดชีวิตอาจไม่ใช่ความคาดหวังอีกต่อไป แต่คนที่รู้ว่าพวกเขามีงานทำเพื่ออนาคตอันใกล้อาจเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งให้คงอยู่ต่อไป”

การจ้างงานตลอดชีพมักพบได้บ่อยในบริษัทข้ามชาติที่ก่อตั้งมายาวนาน ซึ่งการจัดหาเงินบำนาญที่ดี โครงสร้างการจ่ายที่โปร่งใส และแผนกต่างๆ ที่หลากหลาย หมายความว่าคนงานอาจมีแรงจูงใจน้อยลงในการค้นหาตลาดงานเพื่อหาอาชีพที่ประสบความสำเร็จในที่อื่น “หากงานนำเสนอสิ่งที่ผู้คนแสวงหาจากการทำงานมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหาเลี้ยงชีพที่ดี ตลอดจนค้นหาศักดิ์ศรีและความสำเร็จ ความจงรักภักดีของพนักงานจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่ามาก” Rick Wartzman ผู้บริหารคลังความคิดของ Drucker Institute กล่าว และผู้แต่ง The End of Loyalty ซึ่งตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส

บทบาทภาครัฐสามารถช่วยให้พนักงานมีความมั่นคงในระยะยาวมากขึ้น “ธุรกิจภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดมากกว่า และโดยทั่วไปอาจมีการจ้างงานได้ตามต้องการ” เทย์เลอร์กล่าว “ในขณะที่ภาครัฐมีแนวโน้มที่จะเสนอแผนบำเหน็จบำนาญและความมั่นคงในการทำงานมากกว่า”

“ฉันแค่ต้องการองค์กรที่จะให้เงินเดือนที่ดีและความมั่นคงในระยะยาว นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ” – Anthony

หนึ่งในคนงานดังกล่าวคือแอนโธนี เขาเข้ารับราชการในปี 1970 เมื่ออายุ 18 ปี โดยทำงานในหน่วยงานรัฐบาลเพื่อประเมินมูลค่าภาษีของอสังหาริมทรัพย์ในเขตชานเมืองลอนดอน เขายังคงอยู่ในแผนกเดิมจนถึงปี 2017 จนถึงระดับผู้บริหารและเกษียณอายุก่อนกำหนดด้วยเงินบำนาญที่สะท้อนถึงเงินเดือนสุดท้ายของเขา “ผมไม่ใช่คนที่ขับเคลื่อนด้วยอาชีพขนาดนั้น” เขากล่าว “มันเป็นงานแรกของฉันหลังจากเรียนจบ ฉันแค่ต้องการบางอย่างที่ให้เงินเดือนที่ดีและมีความมั่นคงในระยะยาว นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ”

'ทำไมจึงอยู่?'

ความทะเยอทะยานไม่ใช่เป้าหมายของทุกคน หากองค์กรสามารถทำให้คนงานมีงานยุ่ง ค่อนข้างมีความสุข มีส่วนร่วม และค่าตอบแทนที่เหมาะสม คนบางคนก็จะอยู่ต่อไป แม้ว่าแอนโธนีกล่าวว่าในท้ายที่สุดแล้วเขามองว่างานเป็นหนทางไปสู่จุดหมาย แต่เขาก็พอใจที่จะเป็นผู้นำทีม สร้างมิตรภาพในที่ทำงาน และทำงานด้านเทคนิคและใช้เวลานานอย่างมั่นใจ “ฉันไม่เคยคิดที่จะย้ายออกไปเลย มันเป็นงานที่ฉันชอบและให้ความมั่นคงทางการเงินแก่ฉัน”

ความสัมพันธ์และความภักดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานเลือกที่จะอยู่ที่บริษัทหนึ่งเป็นเวลานาน “มันคงไม่ดีนักหากคุณไม่เคยตั้งคำถามว่า 'จะอยู่ไปทำไม'” นิคกล่าว “แต่ฉันทุ่มเทให้กับผู้คนที่ยืนเคียงข้างฉัน และมีโอกาสที่จะทำให้ดีขึ้นอยู่เสมอ และเมื่อคุณมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ความมั่นคงก็มีค่า”

ลูกจ้างอาจเลือกที่จะอยู่ที่นายจ้างคนเดียวเป็นเวลาหลายสิบปี เนื่องจากแรงผลักดันที่ฝังแน่นเพื่อให้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ Lee กล่าว “พนักงานอาจมีโอกาสน้อยที่จะเปลี่ยนงานหากพวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังสูญเสียส่วนหนึ่งของตัวเองโดยการจากไป อัตลักษณ์ทางสังคมของเรามักมาจากกลุ่ม ที่ทำงานสามารถเป็นแหล่งที่แข็งแกร่งของสิ่งนั้น และตัวทำนายหลักว่าจะมีคนทำงานต่อไปหรือไม่ก็คือว่าพวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำและเพื่อนร่วมงานหรือไม่”

วันนี้ความคาดหวังคือไม่มีงานทำเพื่อชีวิต คนงานรู้สึกถูกบังคับให้เปลี่ยนงาน มากขึ้นเพื่อ ให้มีพลวัตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความคาดหวังเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของพนักงานและทัศนคติในการหางานจะเปลี่ยนไป กลุ่มย่อยของพนักงานจะยังคงเลือกที่จะใช้เวลาหลายทศวรรษในองค์กรเดียวกัน บางคนจะแฝงตัวอย่างมีความสุขในบทบาทที่มั่นคงที่ตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิต อื่น ๆ จะทะยานขึ้น บริษัท ที่เสนอการพัฒนาและความก้าวหน้า

“ตอนนี้ฉันอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ฉันจะทำอย่างไรในฐานะผู้นำในการตั้งคนอื่นเพื่อความสำเร็จ” นิคกล่าว “ไม่มีอะไรน่าพอใจไปกว่าการทำงานกับกลุ่มคนและร่วมกันสร้างบางสิ่งที่ใหญ่กว่าพวกคุณทั้งหมดซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลกระทบเชิงบวก”

ที่มา: บีบีซี

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

หลายเมืองทั่วโลกกำลังเปิดให้กับคนเดินและจักรยานได้ใช้ถนนได้อย่างเสรีมากขึ้น
https://www.thaiquote.org/content/248180

การกลับมาของฟาร์มลอยน้ำ Aztec
https://cms.smartsme.co.th/content/edit

หลายเมืองในเทือกเขาหิมาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องแผ่นดินไหวรุนแรง ชาวบ้านยังคงให้ความสำคัญกับรูปแบบอาคารที่มีอายุนับพันปี
https://www.thaiquote.org/content/248052