“อายิโนะโมะโต๊ะ” ใช้เทคโนโลยีผลักดันสู่การเป็นธุรกิจเพื่อความยั่งยืนกับ 5 แนวทางลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

by วันทนา อรรถสถาวร , 5 พฤศจิกายน 2565

“สิ่งสำคัญที่สุดของ อายิโนะโมะโต๊ะคือการนำ ASV= Ajinomoto creating Shared Value เป็นหลักการการดำเนินธุรกิจ โดยคาดหวังผลลัพธ์ 2 เรื่องคือเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม”-ศรชัย กุสันใจ-

 

 

บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด จัดเป็นหนึ่งในบริษัทด้านการผลิตอาหารที่อยู่คู่สังคมไทยมาเป็นเวลานาน มีสินค้าด้านบริโภคออกสู่ท้องตลาดอย่างมากมาย

สัปดาห์นี้ Thaiquote ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษคุณศรชัย กุสันใจ กรรมการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัดพูดถึงยุทธศาสตร์ แนวทาง ตลอดจนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัท

 

คุณศรชัย กุสันใจ กรรมการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด

คุณศรชัย กุสันใจ กรรมการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด

 

คุณศรชัยเริ่มต้นการสนทนาโดยกล่าวว่า กรอบใหญ่ของการทำเรื่องความยั่งยืนทางบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทยก็อิงตามนโยบายบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น แต่มีบางเรื่องที่ไม่ได้ทำ เพราะขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของธุรกิจ ซึ่งทางไทยมีน้อยกว่าบริษัทแม่ ซึ่งยึดมั่นอยู่บนวิสัยทัศน์ Ajinomoto creating Shared Value (ASV) โดยทางอายิโนะโมะโต๊ะจะพยายามร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกส่วนเพื่อสร้าง 2 คุณค่าด้วยกันคือคุณค่าด้านเศรษฐกิจและคุณค่าด้านสังคม เพื่อตอบโจทย์อาหารที่มีสุขภาพดีและการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณค่าทางสังคม โดยต้องให้ทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสียจะได้ประโยชน์ร่วมกัน

 

 

คุณศรชัยบอกว่า “ประเด็นเรื่องความยั่งยืนได้นำเอากิจกรรมตลอดจนแนวคิดต่าง ๆ ของทางบริษัทแม่มาทำทั้งหมด เพียงแต่ความกว้างและความลึกอาจไม่เท่ากับบริษัทแม่ ทั้งนี้เนื่องจากขนาดและประเภทธุรกิจไม่ได้มีจำนวนของประเภทหรือชนิดที่เหมือนเสียทีเดียว”

มิติทางด้านความยั่งยืนของอายิโนะโมะโต๊ะ

ทางบริษัทมองเรื่องความยั่งยืนที่หมายถึง ESG ให้สอดคล้องกับ SDGs ทางบริษัทได้ดำเนินการครอบคลุมทั้ง 3 มิตินี้ แต่สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในขณะนี้คือ E-Environment และS- Social, ทั้งในระดับบริษัทแม่และบริษัทลูกในประเทศไทย ดังนั้นจึงมียุทธศาสตร์ที่สำคัญ 2 ด้านที่จะจัดการคือ มิติทางสังคม หรือ S- Social อายิโนะโมะโต๊ะ จะเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาด้านอาหารและสุขภาพ โดยคาดหวังว่าภายในปี 2573 หรือ 2030 อายิโนะโมะโต๊ะ จะสนับสนุนให้ช่วงอายุของประชากรทั่วโลกมีอายุที่ยาวนานขึ้นได้ถึง 1 พันล้านคนทั่วโลก ส่วนในประเด็นของ E-Environment ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2573 อายิโนะโมะโต๊ะ จะต้องลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมลงไปให้ได้ 50% ทางด้านธรรมาภิบาลเป็นสิ่งที่บริษัทต้องทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสวัสดิการการทำงานของพนักงาน การไม่นำเอาแรงงานต้องห้ามมาทำงาน การให้ความเท่าเทียมกันเรื่องเพศในที่ทำงาน เป็นต้น

ใช้เทคโนโลยีผลักดันไปสู่การเป็นธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

คุณศรชัย เล่าว่า เนื่องจากหัวใจการทำธุรกิจของอายิโนะโมะโต๊ะได้นำเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ มาผลักดันให้เกิดความทันสมัย และเกิดนวัตกรรม ดังนั้นกระบวนการเพื่อความยั่งยืนจึงได้อาศัยเรื่องเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดัน เช่นมีการพูดคุยกับซัพพลายเออร์เพื่อหาแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีในการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดของเสียระหว่างทางการผลิตหรือวัตถุดิบส่วนเกินให้ได้มากที่สุด

“อายิโนะโมะโต๊ะมีเทคโนโลยีที่ทำให้อาหารอร่อยโดยที่ใช้วัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมให้น้อยลง อันเป็นการส่งเสริมเรื่องการลดการเพาะปลูก การเกษตร การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตวัตถุดิบ” คุณศรชัยกล่าว พร้อมกับเล่าต่อไปว่า

นอกจากนี้ทาง อายิโนะโมะโต๊ะยังประสานงานกับทางซัพพลายเชนเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบโลจิสติกส์ หาวิธีการจัดการการขนส่งที่มีประสิทธิผลเพื่อรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยการแสวงหาแนวทางในการจัดเรียงสินค้าให้ประหยัดและคงคุณภาพ เพื่อให้ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อตันของสินค้าลดลง เป็นต้น

5 แนวทางในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

อายิโนะโมะโต๊ะมีแนวทางการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งหมด 5 แนวทางประกอบด้วย
1. การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
2. การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การลดปริมาณขยะพลาสติก
4. ลดการสูญเสียของอาหาร
5. การจัดซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีความยั่งยืน

 

 

คุณศรชัยบอกว่า ขณะนี้ อายิโนะโมะโต๊ะมีนโยบายที่จะลดปริมาณของก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต โดยหันมาใช้พลังงานชีวมวล โดยมีโครงการการจัดตั้งโรงงานผลิตพลังงานดังกล่าวที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นโรงงานที่ให้พลังงานมาจากแกลบเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังพยายามที่จะทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาดด้วยการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ โดยตั้งเป้าว่าในปี 2573 ทางอายิโนะโมะโต๊ะจะพึ่งพาการใช้พลังงานชีวมวลและพลังงานสะอาดอื่น ๆ เช่น แสงแดด พลังงานลม และไอน้ำให้ได้ 100%

 

 

คุณศรชัยเล่าว่า “ในประเด็นของการใช้พลาสติก ทางอายิโนะโมะโต๊ะได้ร่วมมือกับซัพพลายเชน เพื่อลดขยะพลาสติกลงได้ ทั้งนี้เนื่องจาก อายิโนะโมะโต๊ะเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีการสร้างขยะพลาสติกมากอยู่ในระดับแนวหน้า โดยยึดนโยบายลดการใช้ การใช้ซ้ำ และการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาเรื่องพลาสติกในขณะนี้คือ พลาสติกที่ใช้อยู่เป็นพลาสติกผสม มีการพิมพ์สีเข้าไปด้วย ก็เป็นอุปสรรคในการรีไซเคิล ไม่สามารถรีไซเคิลแล้วมาสร้างมูลค่าเดิมได้ ทำให้การรีไซเคิลแล้วเกรดของพลาสติกต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายนัก ทำให้บริษัทต้องทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ เพื่อหาแนวทางคัดเลือกใช้พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลกลับมาได้คุณค่าพลาสติกที่เหมือนเดิมได้ กลายเป็นวัสดุใหม่นำมาทดแทนได้ ตอนนี้ทางอายิโนะโมะโต๊ะทยอยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2573 อายิโนะโมะโต๊ะจะไม่สร้างขยะพลาสติกออกสู่สังคม ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ใช้พลาสติกเลย แต่เมื่อใช้แล้วต้องสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้”

ในกรณีของการสูญเสียด้านอาหารนั้น บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะในฐานะผู้ผลิตอาหารได้ใช้เทคโนโลยี เช่นกระบวนการจัดเก็บมีความสูญเสียมากน้อยเพียงใด ต้องหาเทคโนโลยีมาลดการสูญเสียในส่วนนี้ จะช่วยให้ลดการสูญเสียวัตถุดิบส่วนเกินตามมา และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น มีการวางแผนตลอดซัพพลายเชนให้สามารถป้อนวัตถุดิบเข้าสู่สายการผลิตให้พอดีใช้ ไม่เหลือทิ้ง สิ่งนี้เป็นเรื่องการจัดการภายใน แต่เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะจัดส่งวัตถุดิบธรรมชาติมาให้ทางโรงงานได้ผลิตอย่างพอดีและคงความเป็นรสชาติธรรมชาติได้

 

 

ประเด็นของการจัดซื้อที่ยั่งยืน อายิโนะโมะโต๊ะจะไม่ซื้อกระดาษจากคนที่ไปตัดไม้ทำลายป่า จะใช้วัสดุจากป่าปลูกที่ได้รับการรับรอง หรือใช้เยื่อที่มีการรีไซเคิลกลับมา ในเมืองไทยสามารถดำเนินการในหัวข้อนี้ได้ 100% กล่องที่ใช้ทั้งหมดได้รับการรับรองว่าเป็นการใช้จากวัสดุหมุนเวียน และมาจากป่าปลูก หรือแม้กระทั่งการใช้น้ำมันปาล์ม อายิโนะโมะโต๊ะจะสนับสนุนการใช้น้ำมันปาล์มจากต้นปาล์มที่ปลูกมาอย่างถูกต้อง ไม่มีการถางป่ามาเพื่อปลูก ซึ่งเป็นการทำลายความหลากหลายด้านสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายความยั่งยืนของ อายิโนะโมะโต๊ะ

"อายิโนะโมะโต๊ะตั้งใจไว้ว่าในปี 2573 ประการที่ 1 บริษัทจะสร้างสุขภาพที่ดี ให้กับผู้คน 1 พันล้านคนทั่วโลก ประการที่ 2 ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมลงไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ซึ่งหมายถึง 5 ด้านที่กล่าวมาข้างต้น"

คุณศรชัยกล่าวปิดท้ายว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของ อายิโนะโมะโต๊ะคือการนำ ASV= Ajinomoto creating Shared Value เป็นหลักการการดำเนินธุรกิจ โดยคาดหวังผลลัพธ์ 2 เรื่องคือเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม”

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

โอกาส SME สู่โมเดล BCG สร้าง eco system ใหม่ยกระดับธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
https://www.thaiquote.org/content/248570

CPF ชู 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน "อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดินน้ำป่าคงอยู่"
https://www.thaiquote.org/content/248482

เอ็กโก กรุ๊ป เร่งขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติให้พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน
https://www.thaiquote.org/content/248251