ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายสิทธิประโยชน์การประกันการว่างงานให้กับพนักงานพาร์ทไทม์ที่ทำงานน้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเพื่อเลี้ยงดูบุตรและขยายโอกาสในการฝึกอบรมงานใหม่

ปัจจุบัน บุคคลทั่วไปมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันการว่างงานของญี่ปุ่น หากพวกเขาทำงานอย่างน้อย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย 31 วัน คนงานดังกล่าวสามารถเข้าถึงสวัสดิการการว่างงาน การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยได้รับค่าจ้าง และสวัสดิการสำหรับการฝึกอบรมและการพัฒนาฝีมือแรงงาน

แต่นโยบายใหม่ผู้กำหนดนโยบายต้องการให้ผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้รับการสนับสนุนเลี้ยงดูบุตรและการฝึกอบรมขึ้นใหม่เช่นเดียวกับพนักงานเต็มเวลา

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้พยายามที่จะจัดการกับรอยร้าวเครือข่ายแรงงานของญี่ปุ่น บางคนทำงานนอกเวลาหลายงานซึ่งรวมกันมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่พวกเขายังคงไม่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ประกันการว่างงาน

ในปีงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565 โครงการประกันการว่างงานนำไปใช้กับสถานที่ทำงาน 2.3 ล้านแห่งและพนักงาน 44 ล้านคน คนงานและนายจ้างต่างก็บริจาคเงินในโครงการ กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2561 จะมีคน 5.5 ล้านคนทำงานน้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

กระทรวงการคลังเสนอให้ขยายการประกันการว่างงานในการประชุมคณะที่ปรึกษาซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ กระทรวงแรงงานจะมีส่วนร่วมในการเจรจา

แนวคิดนี้รวมอยู่ใน ร่างข้อเสนอ ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อต่อสู้กับอัตราการเกิดที่ลดลง กระทรวงการคลังกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันวาระของ Kishida เพื่อส่งเสริมการลงทุนในผู้คน

ในปีงบประมาณ 2564 มี 59.1% ของธุรกิจญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกอบรมภาคปฏิบัติสำหรับพนักงานประจำที่ทำงานเต็มเวลา อัตราส่วนสำหรับพนักงานนอกประจำลดลงเหลือ 25.2% การให้พนักงานเข้าถึงสิทธิประโยชน์การฝึกอบรมงานช่วยให้พวกเขาสร้างทักษะได้อย่างอิสระ

สามารถรับผลประโยชน์การฝึกอบรมงานได้ในขณะที่ยังมีงานทำอยู่หรือภายในหนึ่งปีหลังจากว่างงาน ผลประโยชน์ครอบคลุมสูงถึง 70% ของต้นทุนโครงการฝึกอบรมที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน

สิทธิประโยชน์สามารถนำไปใช้กับชั้นเรียนสำหรับปริญญาโทบริหารธุรกิจ เช่นเดียวกับการฝึกอบรมในสาขาต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูล ความครอบคลุมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มค่าจ้างและเปลี่ยนแรงงานไปสู่ตลาดที่กำลังเติบโต

โตเกียวใช้จ่ายเงินสาธารณะค่อนข้างน้อยในการฝึกอบรมงาน ญี่ปุ่นอุทิศ 0.31% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในตลาดแรงงานในปี 2561 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1.37% ของประเทศต่างๆ ในองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา

การประกันการว่างงานของญี่ปุ่นช่วยเหลือพนักงานของบริษัทที่หยุดหรือลดขนาดการดำเนินงานเนื่องจาก COVID-19 มาตรการดังกล่าวช่วยรักษาตำแหน่งงาน แต่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าขัดขวางไม่ให้คนงานเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต กระทรวงการคลังต้องการสร้างกรอบการทำงานที่สนับสนุนการฝึกอบรมซ้ำ

ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขคือตำแหน่งที่จะวาดเส้นบนความครอบคลุม คาดว่าอุตสาหกรรมและบริษัทที่ต้องให้พนักงานจำนวนมากทำงานน้อยลงจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากจะเพิ่มต้นทุนให้กับพวกเขา

การปรับเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับ COVID ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อโครงการประกัน ซึ่งแต่เดิมมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการไม่แพร่ระบาด เงินสำรองสำหรับผลประโยชน์การว่างงานและการฝึกอบรมใหม่ลดลงเหลือ 290 พันล้านเยน (ราว 76,600 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2565 จาก 4.4 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2562

ญี่ปุ่นคาดว่าจะมีรายได้ 790,000 ล้านเยนจากเบี้ยประกันสำหรับสวัสดิการว่างงานและการฝึกอบรมใหม่ในปีงบประมาณ 2565 ขณะที่จ่าย 1.4 ล้านล้านเยน เพื่อตอบสนองต่อความไม่สมดุล รัฐบาลได้เพิ่มอัตราเบี้ยประกันภัยอีก 0.2 จุดในปีงบประมาณ 2566

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ผู้ป่วยโควิดในไทยพุ่ง คาดติดเชื้อใหม่มีโอกาสแตะ 1 หมื่นราย/วัน
https://www.thaiquote.org/content/250075

แพทย์กล่าวว่าการผ่าตัดเพิ่มความยาวขากำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชายที่ต้องการตัวสูงขึ้น
https://www.thaiquote.org/content/250067

กกต.เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุเบาะแสทุจริตเลือกตั้ง-จัด 400 ชุดเคลื่อนที่เร็ว
https://www.thaiquote.org/content/250063